
“เบตง” จ.ยะลา ถือเป็นอีกที่ อีกจังหวัดที่ผมอยากไปเที่ยวมากๆ พอเราได้ตามข่าวต่างๆ จะเห็นว่ามีเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผมกลัวที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้อ่านข่าว ดูรีวิวสถานที่ท่องจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ทำให้เห็นว่าจังหวัดนี้ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิด เลยทำให้ผมตัดสินใจไปเที่ยวจังหวัดยะลานี้สักครั้งในชีวิต พอได้ไปเที่ยว ไปสัมผัสชีวิตของผู้คนที่นั้นแล้ว บอกเลยว่ารู้สึกดีมากๆ ไม่ผิดหวังเลยที่ตัดสินใจมา

นอกจากผู้คนที่นี่จะน่ารัก ช่วยเหลือทุกอย่างแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาหารก็อร่อย ผมว่าเพื่อนๆ ต้องลองมาเที่ยวเบตง ยะลา สักครั้งหนึ่งให้ได้นะครับ รับรองว่าจะต้องหลงรักที่นี่เหมือนกันกับผมแน่นอน
แล้ว 25 จุดเช็คอิน ถ้ามาเที่ยว “เบตง ยะลา” แล้วไม่ควรพลาด จะมีที่ไหนบ้างตามผมไปเที่ยวกันเลยดีกว่า


#PlanTrip “เบตง ยะลา” 4 วัน 3 คืน
Day01
01-สะพานข้ามป่าฮาลาบาลา
02-อุโมงค์เบตงมงคงฤทธิ์
Day02
03-สกายวอร์ค อัยเยอร์เวง
04-น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตอนล่าง
05-สะพานแตปูซู
06-ตึกสีเมืองเบตง
07-Street Art เบตง
08-เฉาก๊วยเบตง กม.4
09-อุโมงค์ปิยะมิตร
10-สวนหมื่นบุปผา (สวนดอกไม้เมืองหนาว)
11-บ่อน้ำพุร้อนเบตง
12-ชายแดนใต้สุดสยาม
13-สนามกีฬาเบตง
14-วัดพุทธาภิวาส
15-ไนท์บาซ่าเบตง
16-ร้านขนมครกยกถาด
17-ร้านบัวบอยเจ้อ้น
18-หอนาฬิกาเมืองเบตง
Day03
19-จุดชมวิวทะเลหมอก ฆูนุงซีลีปัต
20-น้ำตกฮาลาซะห์
21-คลองน้ำใส (ป่าฮาลาบาลา เขื่อนบางลาง)
Day04
22-จุดชมวิวทะเลสาปฮาลาบาลา
23-จุดชมวิวผาหินโยก
24-วัดคูหาภิมุข
25-สวนขวัญเมือง ยะลา
Day01
01 – สะพานข้ามป่าฮาลาบาลา

ทริปเที่ยวจังหวัดยะลาในครั้งนี้ ผมนั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง มาลงที่สนามบินหาดใหญ่ แล้วเช่ารถขับไปที่ยะลาครับ จากหาดใหญ่ไปเบตงใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ
ก่อนเข้าตัวเบตงเราจะขับผ่านที่สะพานข้ามป่าฮาลาบาลา(เขื่อนบางลาง) ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่วิวสวยมากๆ และเป็นที่นิยมสำหรับคนพื้นที่ ที่มานั่งชิลๆ ตกปลา ชมพระอาทิตย์ตกกันมากเลยครับ


วิวสวยมากจริงๆ





ถ่ายรูปจนเพลินใช้เวลานานพอสมควรอยู่ที่นี่ ต้องรีบเข้าเบตงกันแล้ว ก่อนที่จะมืด ลุย

และแล้วพวกผมก็มาถึงกันที่ตัวเมืองเบตงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับที่พักในคืนนี้ และพรุ่งนี้ ผมพักที่ โรงแรมศรีเบตง ครับ ราคาถูก คุ้มมากๆ
02 – อุโมงค์เบตงมงคงฤทธิ์

หลังจากเก็บข้าว เก็บของ เช็คอินห้องพักเรียบร้อย เราก็เดินจากที่พักไปยังที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งเป็นอุโมงค์ลอดใต้ภูเขาแห่งแรกของภาคใต้อีกด้วยครับ


ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวตัวเมืองเบตงอย่าลืมไปเดินเล่น ถ่ายรูปกันที่อุโมงค์เบตงให้ได้นะครับ
Day02
03 – สกายวอร์ค อัยเยอร์เวง

04.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่นห้อง ถามว่านอนต่อได้มั้ย บอกเลยว่าไม่ได้ ถ้านอนต่อแพลนทริปวันนี้จบกัน ฮ่าๆ
05.00 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังสกายวอร์ค อัยเยอร์เวง เพื่อชมวิวทะเลหมอกในเช้านี้ เวลาที่แนะนำคือประมาณตีห้า หกโมงเช้าครับ ดีมากๆ เมื่อเรามาถึงที่จุดจอดรถ สามารถนั่งวินไปยังสกายวอร์ค ค่าบริการ 20 บาท หรือจะเดินไปก็ได้นะครับ เมื่อถึงทางขึ้นสกายวอร์คจะเสียค่าบริการเข้าชม คนละ 30 บาท ชมกี่ชั่วโมงก็ได้


หลายๆ คนบอกว่าถ้ามาเที่ยวเบตง อีกจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดก็คือ สกายวอร์ค อัยเยอร์เวง จุดชมวิวทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากๆ และที่สำคัญสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย




วิวสวยมาก มุมถ่ายรูปก็สวยมากไม่แพ้กัน ผมรับรองว่าถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
04 – น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตอนล่าง

จากสกายวอร์คพวกเราขับรถต่อมาอีกหน่อย ก็จะมาถึงน้ำตก ร.9 ครับ ซึ่งเป็นน้ำตกเล็กๆ ที่สวยมากเช่นกัน น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเบตง ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงสาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณ กิโลเมตรที่ 33 บ้าน กม.32 ชื่อเดิม คือ น้ำตก “วังเวง” หรือ “อัยเยอร์เค็ม” นั่นเอง




ด้วยความที่พื้นที่ไม่ได้ปรับปรุงเลยทำให้บางส่วนดูทรุดโทรมลงไปบ้าง น่าเสียดายเหมือนกัน ผมว่าน้ำตกนี้ถือเป็นอีกน้ำตกที่สวยมากๆ เลยครับ
05 – สะพานแตปูซู

สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนแบบพื้นไม้ มีความกว้าง 1.8 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร ข้ามแม่น้ำปัตตานี ถือเป็นอีกจุดที่เป็นแลนมาร์คสำคัญของที่นี่อีกแห่งเลยครับ วิวสวย มุมถ่ายรูปก็สวยไม่แพ้กัน

06 – ตึกสีเมืองเบตง

เราแวะกลับเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองกันต่อดีกว่า เวลาเพื่อนๆ มาเที่ยวเบตงจะสังเกตเห็นตึกสี ที่มีสีสันสวยงามแปลกตามากๆ ไม่ว่าจะอยู่ซอยไหน ถนนเส้นไหน ตึกที่นี่จะมีเอกลักษณ์มากๆ ครับ
07 – Street Art เบตง

อีกแลนด์มาร์คเบตงที่ไม่ควรพลาดก็คือ สตรีทอาร์ตเบตง บอกเลยว่าสตรีทอาร์ตเยอะมาก มีอยู่ทุกมุม แต่ละมุมจะมีภาพวาดไม่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญสวยทุกภาพ สวยทุกมุม


ดูสิ สวยมากๆ เหมาะแก่การพาเพื่อน พาแฟน มาถ่ายรูปเนาะ ว่ามั้ย
08 – เฉาก๊วยเบตง (วุ้นดำ) กม.4 เจ้าแรก

จากในเมืองเราขับรถต่อมาที่ กม.4 เพื่อมากินเฉาก๊วย ที่เค้าว่าอร่อยที่สุดในเบตง บอกเลยว่าหมดเร็วมาก ตอนผมมาถึงร้าน ร้านจะปิดแล้วอะ เกือบอดซะแล้ว




เฉาก๊วยเบตง กม.4 ถือเป็นร้านเฉาก๊วยเจ้าเก่าที่ขายมาหลายสิบปี และหลายรุ่นมาก จุดเด่นของที่นี่จะทำเองทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการกวน การเตรียมวัตถุดิบ และอีกหลายๆส่วน บอกเลยว่าอร่อยมาก และที่สำคัญขายหมดเร็วมากๆ
09 – อุโมงค์ปิยะมิตร และต้นไม้พันปี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของ เบตง จ.ยะลา ที่ไม่ควรพลาด “อุโมงค์ปิยะมิตร” เป็นอุโมงค์ดินที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้น สำหรับเป็นฐานปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง แต่ต่อมาได้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย อุโมงค์ปิยะมิตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียงนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยว และเสียค่าเข้าชมคนละ 40 บาท






การเที่ยวอุโมงค์ปิยะมิตรต้องเดินเท้าเท่านั้นใช้เวลาในการเดินประมาณหนึ่งชั่วโมง รับรองว่าไม่หลง แถมยังได้เรียนรู้ ได้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์อีกด้วย ดีมากจริงๆ



เมื่อเราเดินไปจนสุดทางซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เราก็จะพบกับต้นไทรพันปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการเที่ยวอุโมงค์ปิยะมิตร ที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยครับ ต้นไทรใหญ่มากๆ

10 – สวนหมื่นบุปผา (สวนดอกไม้เมืองหนาว)

จากอุโมงค์ปิยะมิตร ขับรถตามแมปต่อมาอีกหน่อย ก็จะมาถึงกันที่ สวนหมื่นบุปผา (สวนดอกไม้เมืองหนาว) สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบดอกไม้จะต้องเพลินแน่ๆ เพราะดอกไม้เยอะมากๆ




มองไปทางไหนก็เจอแต่ทุ่งดอกไม้ ถ่ายรูปเพลินกันเลยทีเดียว และที่สำคัญยังเป็นจุดที่ผู้คนในพื้นที่นิยมพาครอบครัวมาเที่ยว มาพักผ่อน กันอีกด้วย
11 – บ่อน้ำพุร้อนเบตง

บ่อน้ำพุร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ซึ่งอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส บริเวณตรงจุดที่มีน้ำเดือดนี้ สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 10 นาทีอีกด้วย และนี้ก็เป็นอีกไฮไลต์ นอกจากหลายๆ คน จะมาแช่น้ำพุร้อน หรืออาบน้ำพุร้อนกันแล้ว ยังนิยมมาต้นไขกันอีกด้วย




ถ้าเพื่อนๆมาเที่ยว อย่าลืมไปแช่น้ำพุร้อนผ่อนคลายกันนะครับ ดีมากจริงๆ


12 – ชายแดนใต้สุดสยาม

ด่านชายแดนใต้สุดสยาม ไทย-มาเลเซีย อีกหนุ่งสถานที่ ที่สักครั้งต้องมาเยือนให้ได้ เนื่องจากผมไปเที่ยวช่วงโควิด ด่านปิดพอดี เลยทำได้แค่ถ่ายรูปอยู่ตรงป้ายแค่นั้นเอง


13 – สนามกีฬาเบตง

อีกหนึ่งสถานที่ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจของคนพื้นที่ที่นี่ ผมว่าเบตงเป็นอีกเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบมากจริงๆ อยู่แล้วสบายใจมากๆ

14 – วัดพุทธาภิวาส

วัดพุทธาธิวาส ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์สวยงามมาก โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นวัดคู่บ้าน คู่เมืองของชาวพุทธที่นี่เลยครับ
วันที่ผมไปเสียดายมากๆ วัดปิดก่อน พลาดเลย ถ่ายรูปอยู่ด้านนอกเอาก็ได้
15 – ไนท์บาซ่าเบตง

เที่ยวมาทั้งวันแล้ว มื้อเย็นในคืนนี้ ผมจะพาเพื่อนๆ ไปหาของกินอร่อยๆ กันที่ตลาดไนท์บาซ่าเบตง บอกเลยของกินเยอะมาก





ไม่ว่าจะเป็นของคาวของหวาน บอกเลยว่าเพียบ อิ่มกันเลยทีเดียว


16 – ร้านขนมครกยกถาด

อีกหนึ่งร้านที่ผมแนะนำมากๆ เลยครับสำหรับคนที่ชอบขนมครก ที่ร้าน ร้านขนมครกยกถาด อร่อยมากๆ มีให้เลือกแบบใส่หน้าเต็ม กับไม่เต็ม แป้งกรอบ หวานเบาๆ ไม่มาก อร่อยมาก



ดูสิ น่ากินมากๆ เห็นละหิวเลย ฮ่าๆ
17 – ร้านบัวบอยเจ้อ้น


ร้านบัวลอยเจ้อ้น ร้านเก่าแก่ที่ขายมานาน และที่สำคัญอร่อย ลูกค้าเยอะมากๆ วันที่ผมไปถ่ายคือหมดแล้วอะ อดเลย



เสียดายมากๆ เลย ไว้โอกาสหน้าจะต้องไปกินให้ได้


18 – หอนาฬิกาเมืองเบตง

อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองเบตงก็คือหอนาฬิกาใจกลางเมืองนั่นเอง ยิ่งยามค่ำคื่นถือเป็นอีกจุดที่สวยมากๆ ครับ

Day03
19 – จุดชมวิวทะเลหมอก ฆูนุงซีลีปัต

ฆูนุงซีลีปัต อันซีนแดนใต้กับจุดชมวิวทะเลหมอก 360 องศา และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากๆ คุ้มค่ากับการตื่นเช้ามากๆ เลยครับ และที่สำคัญไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าภาคใต้จะมีทะเลหมอกที่สวยงามขนาดนี้ ยิ่งมาเห็นด้วยตาตัวเองด้วยแล้วนั้น บอกเลยว่าสวยมากจริงๆ อลังการสุดๆ


จิบกาแฟในยามเช้า ท่ามกลางวิวแบบนี้ บอกเลยว่าฟินมาก มีความสุขมากๆ


ดูความที่ผมไม่ใช่สายเดินป่าไกลๆ เลยไม่ค่อยได้ไปพิชิตดอยที่ไหนเลย แต่พอได้มาเที่ยว มาปีนเขาขึ้นไปยังจุดชมวิวฆูนุงซีลีปัต บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ ที่ได้ตัดสินใจมาเที่ยวในครั้งนี้ มันสวยมากๆ ถือเป็นอีกจุดชมวิวทะเลหมอก 360 องศา ที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้





ยิ่งภาพมุมโดรนด้วยแล้ว ยิ่งย้ำเข้าไปอีกว่าสวยมากจริงๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากมาเที่ยว มาชมวิวสวยๆ แบบนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจด้านล่างนี้ได้เลยครับ : https://www.facebook.com/GunungSilipatBetong

20 – น้ำตกฮาลาซะห์

น้ำตกฮาลาซะห์ ตั้งอยู่ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา น้ำตกกลางป่า ที่ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่เหมาะแก่การมาเล่นน้ำ มาปิคนิคพักผ่อนชิลๆ เป็นอย่างมาก

21 – คลองน้ำใส (ป่าฮาลาบาลา เขื่อนบางลาง)

มาเที่ยวยะลาทั้งทีอีกแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดคือการมาทำกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวป่าฮาลาบาลา ซึ่งเป็นพื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากๆ มีภูเขาสูงใหญ่สลับซับซ้อนกันไปมา และที่สำคัญยังมีสัตว์ป่านานาพันธุ์ ทั้งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง มากมายอยู่ที่นี่



และจุดหมายปลายทางของผมในทริปนี้คือการนั่งเรือไปยังคลองน้ำใส ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่สวยงาม ที่สำคัญน้ำใสมาก ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40 นาที



Day04
22 – จุดชมวิวทะเลสาปฮาลาบาลา

จุดชมวิวทะเลสาปฮาลาบาลา จุดนี้ตั้งอยู่ในโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ซึ่งมีที่พักบริการด้วยนะครับ ตื่นเช้ามาชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาปฮาลาบาลา บอกเลย สวยมากๆ บรรยากาศตอนเช้าก็ดี มีหมอกให้ชมด้วย


ถือเป็นอีกจุดเช็คอิน ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนชิลๆ ชมวิวทิวทัศน์เพลินๆ เป็นอย่างมาก


23 – จุดชมวิวผาหินโยก

อีกจุดชมทะเลหมอก และชมวิวที่ไม่ควรพลาดก็คือ “จุดชมวิวผาหินโยก” ทะเลหมอกแบบหนามาก แต่บอกเลยว่าทางขึ้นไปยังด้านบนชันมาก มากจริงๆ เดินไปพักไปอะ แต่คุ้มค่ามากๆ กับวิวและทะเลหมอกด้านบน



จุดชมวิวผาหินโยก เป็นจุดชมวิวเล็กๆ และไฮไลต์อยู่ที่หินโยกนั่นเอง แบที่พาไปแกโยกให้ดูด้วย ปรากฎว่ามันโยกได้จริงๆ แหะ แปลกใจมาก นี่แหละคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา

24 – วัดคูหาภิมุข

วัดหน้าถ้ำ หรือ วัดคูหาภิมุข ตั้งอยู่ที่ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา เป็นวัดที่สำคัญและเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดยะลาเลยก็ว่าได้ ภายในวัดจะมีถ้ำใหญ่ ซึ่งประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่อยู่ และพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ นอกจากนี้ยังมีหินงอกหินย้อยสวยงาม และน้ำใสสะอาดไหลรินจากโขดหิน สวยงามมากๆ


เป็นอีกวัดที่ไม่ควรพลาดมากๆ นอกจากจะมีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายแล้ว ยังเป็นที่นิยมของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่มักเข้ามาไหว้พระขอพรกัน และยังถือเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านที่นี่อีกด้วย



25 – สวนขวัญเมือง ยะลา

สวนขวัญเมือง (พรุบาโกย) ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล 1 ในเขตเทศบางเมืองยะลา เป็นสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองยะลา พื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 207 ไร่ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาปรับปรุงเป็นสวนกีฬาและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวยะลา โและได้สร้างสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่กว่า 69 ไร่ขึ้นมาอีกด้วย ทำให้ที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมืองยะลา ที่ผู้คนต่างมาออกกำลังกาย นั่งปิคยิคกับครอบครัว กับเพื่อน หรือกับแฟน ที่สำคัญยังมีอ่างเก็บน้ำให้เราได้พายเรือเล่นกันอีกด้วย



ถือเป็นอีกที่ ที่เวลาเบื่อๆ ก็มานั่งเล่นชิลๆริมน้ำ ฟังเพลงบ้าง อ่านหนังสือบ้าง โคตรดีอะ

จบทริปเที่ยว “เบตง ยะลา” 4 วัน 3 คืน กับ 25 จุดเช็คอินที่ไม่ควระพลาด!!!
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะครับ ที่อ่านมาถึงรูปสุดท้ายนี้ ขอบคุณครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นอีกข้อมูลเที่ยว เบตง ยะลา ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมบอกเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปเที่ยวเบตง ยะลา เพื่อนๆ จะต้องหลงรักจังหวัดนี้แน่นอน ที่เที่ยวเยอะ ของกินอร่อย และที่สำคัญผู้คนที่นี่น่ารักมากๆ พร้อมที่จะช่วยเหลือเราทุกอย่างเลย ดีมากจริงๆ
…..มาครั้งแรก ก็หลงรักจังหวัดนี้เข้าซะแล้ว…..
#เบตง #รีวิวยะลา #Betong #Yala #ล่องใต้ไปกับวิศวะ #วิศวะพาเที่ยว
ช่องทางการติดตาม ติดต่อ และอัปเดตข่าวสารกันได้ที่
Fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew
Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/
Twitter : https://twitter.com/widsawaphatiew
Website : https://widsawa.com/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCsw9Q84nu89AJ6GNvZfYcVA
TikTok : https://vt.tiktok.com/kCBPW1/