(รีวิวเกาหลี) | เที่ยวเกาะเจจู เกาหลีใต้ 4 วัน กับ 12 แลนด์มาร์คสุดฮอตที่ไม่ควรพลาด!!!

เกาะเชจู ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วยครับ ถือเป็นอีกเกาะที่สักครั้งควรมาเที่ยวมากๆ นอกจากส้มจะอร่อยแล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราได้ไปเช็คอินถ่ายรูปกันอีกด้วยครับ ซึ่งในทริปนี้เป็นการไปเที่ยวเกาะเชจู ครั้งแรกของผมเลยครับตื่นเต้นมากๆ โดยผมซื้อทัวร์ไปเที่ยวด้วยกันทั้งหมด 4 วัน ในทริปนี้จะไปเที่ยว ไปถ่ายรูปที่ไหนบ้าง ตามผมไปดูกันเลยดีกว่าครับ

Plan trip in Jeju Island

Day01 : CAMELLIA HILL THE FOREST OF LOVE AND HEALING > วัดซันบังโพมุนซา (SANGBANG BOMUNSA TEMPLE) > ส้มไร้เมล็ด (Orange farm) > ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค (Osulloc)

Day02 : ECOLAND > หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ > ภูเขาไฟซองซาน อิลจุลบง > แหลมซอพจีโกจี (SEOPJIKOJI CAPE)

Day03 : วัดชอนวังซา (CHEON-WANGSA TEMPLE) > ชายหาดอีโฮเทอู

Day04 : ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan) > ถนนสายรุ้งเกาะเชจู (Dodu-dong Rainbow Coastal Road)


Day01

สวัสดีครับตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงเกาะเชจูเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แลนด์มาร์คแรกของวันนี้เรามากันที่ คามิลเลีย ฮิลล์ (Camellia Hill The Forest of love and healing) ที่นี่ดอกคามิลเลีย สวยมากๆ ครับ

คามิลเลีย ฮิลล์ ถือเป็นสวนดอกไม้แห่งความรักและการพักผ่อนเลยครับ ซึ่งดอกคามิลเลียที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว แต่เนื่องจากทางสวนได้ปรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทำให้เราสามารถเที่ยวชมสวนดอกไม้ได้ทั้ง 4 ฤดูกาลเลยครับ โดยภายในจะมีมุมให้เราได้ถ่ายรูปมากมาย และสัมผัสบรรยากาศอากาศหนาวๆ ท่ามกลางสวนดอกไม้ดีต่อใจมากๆ

หลังจากเที่ยวชมสวนดอกไม้กันจนเพลินแล้ว ได้เวลาไปไหว้พระขอพรกันที่ วัดซันบังโพมุนซา (SANBANGSAN BOMUNSA TEMPLE) ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาซันบังโดยหันหน้าออกสู่ทะเล ภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ซึ่งเป็นพระ ประธานที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านบนเกาะเชจู

วัดซันบังซาเป็นวัดที่มีชื่อเสียงบนเกาะเชจูมากๆ โดดเด่นในเรื่องของการขอพรเรื่องสุขภาพ การมีบุตร และเงินทอง ซึ่งจะสามารถขอพรเรื่องสุขภาพได้กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้วยการถวายข้าวสารและเทียน ขอพรเรื่องการมีบุตรกับเจ้าแม่กวนอิม และสุดท้ายคือขอพรเรื่องเงินทองกับรูปปั้น โดยมีวิธีการขอพรคือการลูบหน้าท้องรูปปั้นแล้วทำท่าโกยเงินเข้ากระเป๋าถือเรา จากนั้นก็ปิดกระเป๋าเราให้เรียบร้อย เหมือนประมาณว่าเงินทองจะเข้ากระเป๋าเราอะไรประมาณนี้เลยครับผม

หลังจากที่ไหว้ขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอแวะดื่มกาแฟสักหน่อย เพิ่มพลังสำหรับวันนี้

เรามาต่อกันที่ สวนส้มไร้เมล็ด (Orange farm) อย่างที่บอกไว้นะครับว่าส้มเชจูอร่อยมากๆ ยิ่งกินยิ่งฟิน ดีต่อใจสุดๆ เลยครับ

ส้ม ที่ปลูกบนเกาะเชจู จะมีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ ปลอดสารเคมี และดกมากๆ และยังเปฌนแหล่งรายได้หลักๆ อีกอย่างหนึ่งของชาวบ้านบนเกาะอีกด้วยครับ

ไร่ชา O’sulloc (제주 서광다원) ที่นี่ถือเป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลี อยู่บนเกาะเชจูเลยครับ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาชั้นยอดเพราะต้นชาจะได้รับแสงแดดที่พอเหมาะพอดี ทำให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพสูง แถมไร่ชา O’sulloc นี้คลอบคลุมพื้นที่กว่า 528,928 ตารางเมตร ปลูกอยู่บนเนิน บอกเลยว่าสวยมากๆ

ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาเที่ยว มาถ่ายรูป และรวมไปถึงร้านคาเฟ่ชาเขียว บอกเลยว่าคิวยาวมาก แต่พอได้ลองแล้วอร่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นเค้ก หรือเครื่องดื่ม คุ่มค่ากับการต่อคิวสุดๆ เลยครับ


Day02

แลนด์มาร์คแรกของวันนี้เราจะไปนั่งรถไฟเที่ยวกันที่สวนสนุก ECOLAND ครับ

ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมมากๆ โดยมีเครื่องเล่นต่างๆ ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย เช่น รถไฟไอน้ำหรือรถไฟโบราณที่ยังคงใช้ระบบเดินรถแบบดั้งเดิม และเส้นทางรถไฟก็จะวิ่งไปกลางป่า Gotjawal forest สองข้างทางก็ได้ชมต้นไม้นานาพันธุ์ และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ, สะพานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, สวนกังหันลม, สวนสำหรับปิคนิค, เมืองสำหรับเด็ก, ร้านอาหารคาเฟ่ และร้านขายของงานศิลปะต่างๆ อีกด้วยครับ และที่สำคัญยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย

หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ (SONGEUB FOLK VILLAGE) (성읍민속마을) เป็นหมู่บ้านโบราณอายุมากกว่า 300 ปี ที่ยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริงๆ เลยครับ เมื่อเรามาที่นี่จะได้รู้จักกับรูปปั้นเทพพระเจ้าทอลฮารุบังที่มีอยู่ทั่วเกาะ บ้านเรือนที่สร้างจากก้อนหินทั้งหลัง แหล่งน้ำจืดที่หายากมาก อาชีพหลักของชาวเกาะที่นี่ ความไม่เท่าเทียมของหญิงชายในอดีต สัตว์เลี้ยงประจำเกาะ ไหหรือโอ่งโบราณที่ไม่ได้มีไว้หมักกิมจิเหมือนที่อื่นๆ และที่พลาดไม่ได้ก็คือสินค้า Otop ของหมู่บ้านที่มีมาช้านาน ก็คือผลิตภัณฑ์แคลเซียมธรรมชาติจากกระดูกม้า และน้ำหมักเบอร์รี่ป่า แบล็คราสเบอรี่ หรือที่เรียกันว่า Omija (โอมิจา) นั่นเองครับ ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยว อย่าลืมทดลองดื่มกันนะครับสดชื่นมากๆ เลย

ภูเขาไฟซองซาน อิลจลุบง (SEONGSAN ILCHULBONG ) หรือที่ถูกขนานนามว่า “Sunrise Peak” มีอายุมากกว่า 5000 ปี โดยที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดเลยครับ จึงเป็นสถานที่โด่งดังที่ผู้คนมาขอพรและชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน

และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาสัมผัส จึงทำให้ที่นี่ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้สงบลงเป็นที่เรียบร้อย แต่ทิ้งความสมบูรณ์และสวยงามเอาไว้ โดยรูปทรงที่กลมขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 600 เมตร โดยมีรอยหยักทำให้มองแล้วมีลักษณะเหมือนทรงมงกุฏเลยครับ ซึ่งเราสามารถเดินทางจุดเริ่มต้นขึ้นไปชมความสวยงามของปากปล่องภูเขาไฟด้านบน โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 182 เมตร เดินไม่ไกลแต่บอกเลยว่าเหนื่อยมาก ต้องลองครับสักครั้งหนึ่งที่ได้มาเชจู

เดินขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟกันมาแล้ว ได้เวลามาชมพระอาทิตย์ตกกันที่ แหลมซอพจีโกจี (SEOPJIKOJI CAPE) จุดนี้ถือเป็นอีกสถานที่ที่ซีรีย์เกาหลีนิยมมาถ่ายทำมากที่สุดเลยครับ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดฮิตบนเกาะเชจูอีกด้วย

แสงช่วงเย็นสวยมากจริงๆ


Day03

เช้าวันนี้เรามาไหว้ขอพรกันที่ วัดชอนวังซา (CHEON-WANGSA TEMPLE) เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาฮัลลาซาน เป็นวัดเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากๆ อีกแห่งหนึ่งในเกาหลีเลยครับ ถือเป็นอีกวัดที่สายมูไม่ควรพลาด

หลังจากที่ไหว้พระขอพรเสร็จแล้ว เรานั่งรถมาต่อกันที่ชายหาดอีโฮเทอู ที่นี่ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คท่องเที่ยวที่ผู้คนต่างมาพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากจะมีชายหาด มีร้านค้า ร้านอาหาร ไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่️ ประภาคารม้าแดง-ขาว สูงใหญ่กลางทะเล ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันมากๆ เลยครับ

วิวสวยมากจริงๆ


Day04

สำหรับวันสุดท้ายของทริปนี้เรามีแพลนจะไปกันที่ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan) ซ฿่งถือเป็นอีกภูเขา และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเกาะเชจูเลยครับ แต่เนื่องด้วยวันที่ผมไปหิมะตกหนักพอดี ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปยังบนยอดได้ ทางไกด์เลยพาไปเที่ยวอีกจุด ซ฿่งอยู่ไม่ไกลมากครับ จุดนี้สวยงามไม่แพ้กันเลย

เรามาปิดท้ายทริปกันที่ ถนนสายรุ้งเกาะเชจู (Dodu-dong Rainbow Coastal Road) ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คบนเกาะเชจูที่ไม่ควรพลาดมากๆ เลยครับ สวยมากๆ

เนื่องจากอยู่ริมทะเล ทำให้ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยครับ

จบทริปเที่ยวเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบรีวิวนี้กันนะครับ เกาะเชจูถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่สักครั้งหนึ่งควรไปเที่ยวให้ได้เลยครับ ที่เที่ยวเยอะ อาหารอร่อย ผู้คนน่ารักมากๆ ครับ

#เที่ยวเชจู #เกาะเชจู #jeju #รีวิวเกาหลีใต้ #southkorea #วิศวะพาเที่ยว

Leave a Reply