
10 จุดเช็คอิน “กาญจนบุรี” แค่…คนเดียวก็ไปเที่ยวได้ ไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้
ในวันหยุดนี้ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหน มาเที่ยว กาญจนบุรี กัน ถ้าเพื่อนไม่ว่าง แฟนไม่มา รถไม่มี ไม่ต้องกังวล เพราะทุกการเดินทาง ทุกสถานที่ สะดวก สบาย แถมปลอดภัยหายห่วง
รู้ว่าเหนื่อย!!! รู้ว่าเบื่อ!!! หน่าาาา นะ นะ นะ มาเที่ยว มาพักผ่อนกัน แล้วจะรู้ว่าชีวิตเรามีความสุขมากขนาดไหน 😊😊
001—ไทรโยควิว รีสอร์ท
แพพักริมน้ำสุดชิล กับบรรยากาศยามเช้าที่โคตรฟิน ไปนอนฟังเสียงสายน้ำไหลไปมายามค่ำคืน ตื่นมาสัมผัสบรรยากาศหมอกยามเช้า
บอกเลยว่า มันดีมากจริงๆ โคตรฟิน 🤣🤣
#ราคาที่พัก
🔸 พัก1ท่าน/ห้อง ราคา 1,700 บาท
🔸 พัก2ท่าน/ห้อง ราคา 2,400 บาท
🔸 พัก3ท่าน/ห้อง ราคา 3,600 บาท
***ห้องพักเป็นแพห้องแอร์ มีน้ำอุ่น ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น สามารถพัก 2-3ท่าน/ห้อง และที่สำคัญอาหารเป็นแบบบุฟเฟต์ทั้งมื้อเช้า และมื้อเย็น
#กิจกรรม
มีลากแพไปกระโดดน้ำตอนเย็น ซึ่งจะมี 2 ช่วงนะครับ ช่วง 16.00 น. และ 17.00 น. เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปกระโดดน้ำเล่นกันครับ
#การเดินทาง
จาก บขส.กาญจนบุรี นั่งรถเมล์ หรือรถตู้สาย กาญจนบุรี-สังขละบุรี มาลงที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านแก่งจอ พอถึงแล้วให้โทรติดต่อทางรีสอร์ทให้มารับได้เลยครับ
#ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
FB : Saiyokview Resort : ไทรโยควิว รีสอร์ท
โทร : 085-5164682 087-3999964,
062-4944544,093-4944544
002—สังขละบุรี
“เมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรม”
คือดินแดนที่มีทั้ง ไทย มอญ กะเหรี่ยง อยู่รวมกัน
และมีสะพานไม้อุตมานุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์เด่นที่ใครได้มาเยือนสังขละบุรีต้องถ่ายรูปเช็คอินกันแน่นอน
ไฮไลต์สังขละบุรี ที่มาแล้วต้องห้ามพลาด
📌 สะพานมอญ
📌 ตักบาตรตอนเช้า
📌 ล่องเรือชมเมืองบาดาล
📌 วัดวังก์วิเวการาม
📌 เจดีย์พุทธคยา
📌 ถนนคนเดินสังขละบุรี
ต้องห้ามพลาดไปถ่ายรูปเช็คอินกันเด็ดขาด ถ้าพลาดถือว่ามาไม่ถึงสังขละบุรีนะครับ 😊😊
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
– รถเมล์สายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ – สังขละบุรี (รถเมล์หวานเย็น) ใช้เวลาในการเดินทาง จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงอำเภอสังขละบุรีประมาณ 4-5 ช.ม.
– รถตู้สายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ – สังขละบุรี ใช้เวลาในการเดินทาง จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงอำเภอสังขละบุรีประมาณ 3-4 ช.ม.
ปล.ถ้าต้องการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ มีบริการอยู่ตรงถ้ารถตู้นะครับ วันละ 200 บาท
003—บ้านอีต่อง
บ้านอีต่อง หมู่บ้านในภวังค์หมอก เดิมมีชื่อว่า “หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง” ซึ่งแปลว่า บ้านเทพเจ้าแห่งขุนเขา ต่อมาได้เรียกกันเพี้ยนไปจนเป็นชื่อ “หมู่บ้านอีต่อง” มาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาปิล๊อก อยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นเมืองเหมืองแร่วุลแฟรม และดีบุก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตจนมาถึงปี พ.ศ. 2528 เหมืองแร่ต่างๆ เริ่มทยอยปิดตัวลงเหลือไว้แต่เพียงตำนาน แต่ก็ยังคงหมู่บ้านแห่งนี้ไว้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบสุข ความงดงามของธรรมชาติ สายหมอกที่มีตลอดทั้งปี ไอฝน กลิ่นดิน และยังคงวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาร์ อย่างมีมิตรไมตรีต่อกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
#การเดินทาง
– นั่งรถตู้จาก บขส.กาญจนบุรี ไปลงตลาดทองผาภูมิ ราคาตั๋ว 115 บาท (อันนี้ใครจะเลือกนั่งรถเมล์สาย กาญจนบุรี สังขละบุรี ไปก็ได้นะครับ)
– ต่อด้วยการนั่งรถสองแถวสีเหลือง สายทองผาภูมิ บ้านอีต่อง (รอบรถจะมีตั้งแต่ 10.30,11.30,12.30 และ13.30 น.) ราคาตั้ว 70 บาทครับผม
004—ทางรถไฟสายมรณะ
ทางรถไฟสายมรณะ สายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชีย ที่กองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์ มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่านั่นเอง
ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานี น้ำตกระยะทางจาก
สถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร
“หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น”
นี่คือคำเล่าขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรนี้ คือ ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก ของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนาม ว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ”
หืม
อ่านประโยคนี้ทีไร เศร้าทุกครั้ง
เวลาที่เราได้ไปเห็นของจริง ยิ่งรู้ถึงความอยากลำบากในการสร้างมากๆ
😢😢😢
——————————
#การเดินทางด้วยรถไฟ
การนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ เดินทางไปกาญจนบุรี
จะต้องขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่
ตั้งอยู่ด้านหลังของโรงพยาบาลศิริราช นั่นเอง
ขบวนรถไฟที่เดินทางไปยังกาญจนบุรีมีด้วยกันทั้งหมด 2 ขบวนนะครับ คือตอนเช้า จะมีรถเที่ยวเวลา 07.50 น. กับตอนบ่าย เวลา 13.55 น. ครับผม
สำหรับใครที่ต้องการจะไปเที่ยวกาญจนบุรีใน 2 วัน 1 คืน ผมแนะนำให้ขึ้นรถรอบเช้าดีกว่านะครับ
ซึ่งรถไฟรอบ 07.50 น. จะเดินทางไปถึงสถานีน้ำตก ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายในเวลา 12.35 น. (เวลาการเดินทางอาจจะมีช้ากว่าตารางบ้างนะครับ)
โดยเส้นทางขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี
จะวิ่งผ่านสถานีต่าง ๆ เช่น ตลิ่งชัน-ศาลายา-นครปฐม-หนองปลาดุก ท่าเรือน้อย-กาญจนบุรี-สะพานข้ามแม่น้ำแคว-วังเย็น-บ้านเก่า-ท่ากิเลน-ถ้ำกระแซ-วังโพธิ์-เกาะมหามงคล-น้ำตก
ซึ่งเราสามารถตรวจสอบตารางการเดินรถไฟ
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย
โทร. 02 220 4261, 02 220 4268
ปล. การเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยขบวนพิเศษในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ออกที่หัวลำโพง เวลา 06.30 น. ไป-กลับคนละ 120 บาทครับ ซึ่งในวันธรรมดาเราต้องไปขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรีครับผม
005—สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้ เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ
สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่น เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทาง ช่วงหนึ่งนั้น จะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น เพื่อข้ามแม่น้ำไป จึงเกิดเป็นสะพานแห่งนี้ขึ้นนั่นเอง
นอกจากสะพานข้ามแม่น้ำแควจะเป็นเอกลักษณ์แล้วบริเวณใกล้กันยังมีพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก ที่เป็นสถานที่เก็บเรื่องราวตั้งแต่อดีต กว่าจะมาเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควที่เป็นจุดท่องเที่ยวอันโด่งดังขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง สามารถแวะเข้าไปชมกันได้นะครับ
จากสะพานข้ามแม่น้ำแควเดินไปอีกนิด ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก
ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นโดยเจ้าคุณพระเทพปัญญาสุธี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงครามและเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี
โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดการแสดงไว้ 3 ส่วน ประกอบด้วย
🔸 ส่วนที่ 1 อาคารจำลองที่พักเชลยศึกในระหว่างการสร้างทางรถไฟ
🔸 ส่วนที่ 2 ภาพถ่ายและภาพเขียน แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยศึกในการสร้างทางรถไฟ
🔸 ส่วนที่ 3 เครื่องใช้ไม้สอยของเชลยศึกที่นำมาแลกอาหารและผลไม้กับคนไทยเมื่อขาดแคลน ได้รับมอบจากผู้มีจิตศรัทธา
นอกจากนั้นยังมีอาวุธปืน ระเบิดและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เช่น หมวก รองเท้า ช้อนส้อม มีด อีกด้วยครับ
บอกเลยว่ายิ่งเราได้ไปสัมผัส ไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตผ่านทางสิ่งของที่เหลืออยู่ ภาพถ่ายต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความยากลำบาก ความทรมาน ในสมัยนั่น เศร้าเนาะ 😢😢
ยิ่งดู ยิ่งซึมเลยอะ
– ค่าวินมอไซต์จากชุมชนปากแพรกไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว 40 บาท
– ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ คนละ 40 บาท
006—D Hostel
ที่พักสุดฟิน ริมแม่น้ำแควน้อย สำหรับใครที่ชอบนอนโฮสเทล บอกเลยว่าที่นี่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ราคาก็ถูก ต่ำสุดเพียงแค่ คืนละ 380 บาทต่อคนเท่านั้น แถมยังตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อยอีกด้วย บรรยากาศก็ดี
เงียบสงบ ถ้าคุณกำลังหาที่พักผ่อน วิวดีดี สวยสวย เงียบสงบ ผมแนะนำที่ @D hostel กาญจนบุรี เลยครับ
บอกเลยว่าดีจริงๆ 😊😊
รายละเอียดห้องพัก
– ห้องรวม เตียงแบบ 2 ชั้น ราคา 380 บาท
– ห้องรวม เตียงเดี่ยว ราคา 450 บาท
– ห้องเดี่ยว ราคา 650 บาท
ติดต่อสอบถามจองที่พักได้ที่
FB : dhostel
เบอร์โทร : 096-9542298
อีเมล์ : Dhostel81@gmail.com
การเดินทาง
เราสามารถนั่งวิน หรือจ้างแท็กซี่จาก บขส กาญจนบุรี ไปส่งที่โฮสเทล ได้นะครับ ราคาประมาณ 50-60 บาท
ปล.ไม่แนะนำให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปนะครับ เพราะทางที่พักไม่มีที่จอดรถครับ
007—บ้านกกกอด
ให้ธรรมชาติได้โอบกอด ณ บ้านกกกอด จ.กาญจนบุรี
ทำงานมาเหนื่อยๆ เครียดๆ อย่าลืมพาตัวเองไปพักผ่อนบ้างน้าาา ไปให้ธรรมชาติได้ดูแล ได้โอบกอดเราบ้าง ไปนอนฟังเสียงธรรมชาติ สัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบาย และเงียบสงบ ริมน้ำท่ามกลางหุบเขา กันครับ รับรองว่าคุณจะมีพลัง มีรอยยิ้ม และมีความสุข
ในการที่จะเริ่มต้นทำงานมากขึ้น 💚💚
#ราคาห้องพัก
ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,391 บาท (โซนริมเขื่อน) บอกเลยว่าโซนนี้สามารถเห็นวิว ทิวทัศน์ริมเขื่อน วิวดีสุดๆ
#การเดินทาง
นั่งรถโดยสารที่ บขส.กาญจนบุรี สาย กาญจนบุรี-เอราวัณ บอกคนขับให้จอดที่แยกบ้านโป่งปัด ราคา 40 บาท จากนั้นนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างของชาวบ้านเข้าไปยังบ้านกกกอด ราคา 50 บาท สามารถติดต่อรถจากชาวบ้านแถวนั้นได้เลยนะครับ หรือถ้าไม่มีโทรหาที่พักได้เลยน้าาา
#ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Facebook : บ้านกกกอด กาญจนบุรี
Website : http://www.baankokkod.com
Tel : 085-5191953, 092-5800058
008—Sweet home floating house
ไปติดเกาะนอนพักผ่อนดื่มด่ำบรรยากาศ กลางเขื่อนศรีนครินทร์ กับโฮมสเตย์ราคาหลักร้อย แต่วิวและบรรยากาศที่ได้รับหลักล้าน เลยก็ว่าได้ 😊😊
▶️ สนใจที่พักติดต่อ : คุณโม (090-6492829)
แนะนำให้มาพักช่วงวันธรรมดาดีกว่าครับ ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ
▶️ ราคาห้องพัก : ห้องละ 890 บาท
▶️ การเดินทาง :
– รถส่วนตัว ถ้ามาทางอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น) ขับรถไปยังจุดขึ้นแพขนานยนต์เพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง แพออกทุกชั่วโมงครับ
– รถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถโดยสารจาก บขส.กาญฯ สาย ศรีสวัสดิ์ – กาญจนบุรี
009—น้ำตกแม่ห้วยขมิ้น
“น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” ณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
ความงามของน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นเล็กๆ กับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยป่าเขา ธรรมชาติที่สวยงาม จากต้นน้ำของเทือกเขากะลาซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้ง ทางทิศตะวันออกของอุทยานฯ และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ชั้น
ชั้นที่ 1 ดงว่าน
ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น
ชั้นที่ 3 วังหน้าผา
ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว* (ถือเป็นชั้นที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้)
ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง
ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ
ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า
ซึ่งแต่ละชั้นล้วนมีเอกลักษณ์ ความสวยงามแตกต่างกันออกไป ทางเดินไปน้ำตกแต่ละชั้นนั้นไม่ต้องกลัวหลงนะครับ มีป้ายบอกตลอดทาง
นอกจากจะมีน้ำตกที่สวยงามให้เล่นกันแล้ว ยังมีเส้นทางให้ศึกษาธรรมชาติป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง อีกด้วยน้า ไปกาญฯ ไปด้วยกัน แล้วจะคิดถึงกาญฯ แน่นอน 😄
—————————————
▶️ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ
-คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก และนิสิต นักศึกษา 50 บาท
-ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
-ค่ากางเต็นท์ คืนละ 60 บาท
▶️ สิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณน้ำตกฯ
บ้านพัก, ลานจอดรถ, ลานกางเต็นท์, ห้องน้ำ, ร้านอาหาร, ร้านค้าสวัสดิการ เป็นต้น
ติดต่อจองบ้านพักอุทยานฯได้ด้วยตนเองและทางอินเทอร์เน็ต ได้ที่ http://www.dnp.go.th
010—น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ (หรือ น้ำตกสะด่องม่องลาย) ถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ และสวยงามมากๆ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้
แบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ชั้น โดยแต่ละชั้น จะมีความสวยงาม เอกลักษณ์ และเส้นทางการพิชิตในแต่ละชั้นแตกต่างกัน
ที่สำคัญน้ำใสมาก มากๆ ด้วย แถมบางขั้นน้ำยังออกเป็นสีฟ้าครามชัดเจน โคตรสวยอะ สวยมากจริงๆ และ และ และ และยังมองเห็นเจ้าปลาพลวงว่ายน้ำไปมาอีกด้วย เล่นน้ำไป ปลาดตอดไป โคตรฟิน โคตรเสียว ฮ่าๆ 😂😂 เสน่ห์ของแต่ละชั้นที่เราได้ไปสัมผัส
เหมือนกับการเดินอยู่ในห่วงสวรรค์ที่ทำให้เรารู้สึก
พูดมาขนาดนี้แล้วยังไม่มาเที่ยว ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
สวยมากจริงๆ นะ อากาศร้อนๆ แบบนี้ น้ำตกนี่แหละคืออีกทางเลือกหนึ่ง เลยก็ว่าได้ ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องมา “น้ำตกเอราวัณ”
ตอบเลยว่าไม่รู้ครับ รู้แค่ว่ามาแล้วก็อยากกลับมาอีกเรื่อยๆ จริงๆนะ 😊😊
——————————————————
▶️ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/EngwK8
▶️ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ
คนละ 100 บาท/เด็ก 50 บาท/รถยนต์คันละ 30 บาท
▶️ การเดินทาง
– รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหมายเลข 3198 กาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่อุทยานฯ เอราวัณ
– รถโดยสารสาธารณะ
นั่งรถเมล์โดยสารที่ สถานีขนส่ง กาญจนบุรี หมายเลข 8170 สาย การญจนบุรี – เอราวัณ
รถออกทุกๆ 1 ชั่งโมง ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.20 น.
——————————————————
ช่องทางการติดตาม ติดต่อ และอัปเดตข่าวสารกันได้ที่
Fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew
Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/
Twitter : https://twitter.com/widsawaphatiew
Website : https://widsawa.com/