
นอกจากเขาใหญ่ที่เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แล้ว เดินทางเลยต่อไปอีกนิดก็จะเป็นปราจีนบุรี อีกหนึ่งจังหวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบและมีสถานที่ท่องเที่ยวแอบซ่อนตัวอยู่มากมาย ใครยังไม่เคยไปลองดูกับ 7 ที่น่าเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในปราจีนนี้ก่อนนะครับ ดูเสร็จแล้วอาจจะอยากรีบจองที่พักแล้วจัดทริปไปเที่ยวอาทิตย์หน้านี้เลยก็ได้นะ
จะจองที่พักหรือโรงแรมในปราจีนบุรีที่ไหนก็ลองหาข้อมูลดูก่อนได้ที่ Traveloka มีที่พักปราจีนราคาเบาๆ มาแนะนำ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและรีวิวจากผู้ที่เคยพักจริงพร้อมโลเคชั่นใกล้ที่เที่ยวกันได้ที่นี่เลย
เช็คราคาที่พักในปราจีนบุรี คลิกที่ Traveloka
1. โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ
เริ่มต้นกันที่โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ มาเที่ยวปราจีนทั้งทีก็ต้องเรียนรู้ความเป็นมากันสักนิด เพราะบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในปัจจุบันเคยมีเมืองโบราณวัฒนธรรมทวารวดีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ภายในบริเวณโบราณสถานที่เหลืออยู่พบทั้งกลุ่มอาคารลักษณะเทวาลัย ก่อด้วยศิลาแลงและอิฐ มีเนินดิน สระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีบันไดทำเป็นทางลง โดยผนังรอบสระประดับด้วยภาพแกะสลัก รวมถึงบ่อน้ำอื่นๆ ที่กระจายตัวอยู่กว่า 100 แห่ง นอกจากนี้ยังพบโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น เทวรูป เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องใช้อีกด้วย
2. พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
มาถึงปราจีนบุรีแล้วก็ต้องไปเยือนตึกเหลืองที่โดดเด่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของปราจีนไปแล้ว นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสไตล์บาโรคตั้งอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี นอกจากความสวยงามแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรนานาชนิด เดิมที่นี่ถูกสร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศรสำหรับเป็นที่ประทับรับเสด็จเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ ก่อนได้รับการบูรณะจนกลายมาเป็นตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในปัจจุบัน
3. อาณาจักรหิ่งห้อย
มาสายธรรมชาติกันบ้าง กับที่เที่ยวแห่งใหม่ของปราจีนบุรีที่กำลังมาแรงในขณะนี้ เพราะที่นี่เป็นที่เดียวที่เราจะสามารถพบเห็นหิ่งห้อยตัวเป็นๆ จำนวนมากได้ เรียกว่าเป็นอาณาจักรหิ่งห้อยกันเลยที่เดียว จุดชมหิ่งห้อยนี้อยู่ในค่ายพรหมโยธี กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มาก จนกลายเป็นที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยเรืองแสงตัวน้อยๆ จำนวนนับไม่ถ้วนให้เราได้ชมกัน
4. อุทยานแห่งชาติทับลาน
มาต่อกันที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกหนึ่งแห่งนั่นก็คืออุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งประกอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับกันจนเกิดเป็นภูมิทัศน์ที่มีความสวยงามแปลกตา นอกจากนี้ยังสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้นานาชนิด ทั้งยังมีต้นน้ำหลายสาย ภายในอุทยานมีผาเก็บตะวันสำหรับชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ เขามะค่าซึ่งเป็นจุดชมทัศนียภาพโดยรอบ มีเขื่อนลำปลายมาศสำหรับกิจกรรมล่องแพ และน้ำตกบ่อทองที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ที่สำคัญคือป่าลานผืนสุดท้ายของไทย โดยต้นลานเป็นพันธุ์ไม้โบราณลักษณะคล้ายต้นปาล์มปัจจุบันหาชมได้ยาก
5. แก่งหินเพิง
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสำหรับสายรักกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็ต้องที่แก่งหินเพิง หนึ่งในแก่งยอดนิยมของนักล่องแก่งไทย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีต้นธารน้ำมาจากยอดเขาใหญ่ นอกจากแก่งหินเพิงแล้วก็ยังมีแก่งผักหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังยาว แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ที่นิยมล่องแก่งเช่นกัน โดยในช่วงฤดูฝนของแต่ละปีจะมีการจัดเทศกาลล่องแก่งหินเพิงอีกด้วย
6. ดาษดาแกลอรี่
มาเปลี่ยนบรรยากาศสู่แนวคาเฟ่ชิลล์ๆ และแกลอรี่ศิลปะกันบ้างกับดาษดาแกลอรี่ ที่เที่ยวขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่งของปราจีนบุรี โดดเด่นด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด บนพื้นที่กว่า 750 ไร่ มีทั้งเรือนกระจกขนาดใหญ่ นิทรรศการดอกไม้ในช่วงเทศกาลสำคัญ แล้วยังมีร้านจำหน่ายดอกไม้ ของที่ระลึก รวมถึงร้านกาแฟที่มีเบเกอรี่อร่อยๆ กับไอศกรีมโฮมเมดที่ทำจากดอกไม้หลากหลายรสชาติให้ได้ลองชิมกันอีกด้วย
7. The Verona @Tub Lan
ยังเป็นที่นิยมกันอยู่กับแหล่งท่องเที่ยวสไตล์อิตาลี ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และจุดชมวิว พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ โดย The Verona ได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของเมืองเวโรน่า แคว้นเวเนโต้ ประเทศอิตาลี ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา ภายในบริเวณประดับตกแต่งได้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในอิตาลี มีทั้งอาคารสีสันสดใส สะพานทอดยาว และทะเลสาบขนาดใหญ่ พร้อมกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ อาทิ นั่งเรือกอนโดลา นั่งรถม้า ให้อาหารสัตว์ และเล่นเครื่องเล่นสนุกๆ
ใครเบื่อเขาใหญ่แล้วลองขับรถเลยไปอีกสักนิดจนถึงปราจีนบุรี แล้วจะได้ที่เที่ยวดีๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย นอกจากที่เที่ยวจะสวยแล้วที่พักในปราจีนก็ยังสวยไม่แพ้กันอีกด้วย เช็คราคาหรือจองที่นอนสำหรับทริปปราจีนบุรีไปที่ Traveloka ได้เลยครับ