(รีวิวญี่ปุ่น) | เช่ารถเที่ยว “Kyushu”  (Fukuoka-Kumamoto-Oita) 6 วันงบ 20000 บาทเหลือๆ!!!

ทริปเที่ยว “คิวชู” ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ถือเป็นทริปที่สนุกมากๆ เพราะครั้งนี้ผมได้เช่ารถขับเที่ยว Fukuoka-Kumamoto-Oita ซึ่งเป็นเมืองหลักที่ผมได้ไปเที่ยวตลอด 6 วันในครั้งนี้ แต่ละสถานที่ที่ไป วิวทิวทัศน์ บรรยากาศ บอกเลยว่าสวย คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน และที่สำคัญตามรอยแล้วไม่ผิดหวังครับ จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่า 😍😍

Plan trip

Day01 :: Fukuoka

10.30 เดินทางถึงสนามบินฟุกุโอกะ และติดต่อรับรถเช่า

11.00 ขับรถเที่ยวตามแพลน

  • Nanzoin Temple
  • Dazaifu Tenmangu หรือ ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู
  • Mikasa River 
  • เดินทางเข้าที่พัก lyf tenjin fukuoka 
  • กินอาหารย่าน Tenjin (Street food)

Day02 :: Kumamoto

  • toffee park 
  • Kumamon Port Yatsushiro
  • สวนซุยเซนจิ (Suizenji Garden)
  • พักที่ super hotel lohas kumamoto tennen onsen

Day03 :: Kumamoto-beppu 

  • ปราสาทคูมาโมโตะ
  • Mt. ASO Nakadake Crater 
  • Kusasenri Ga Hama Grassland (ทุ่งหญ้าคุสะเซนริกะฮามะ)
  • Kami-komezuka 
  • Daikanbo Viewpoint จุดชมวิวยอดเขาไดคันโบ
  • พักที่ hotel new tsuruta 

Day04 :: Oita

  • Beppu tower
  • Matogahama Beach 
  • Umi Jigoku Meguri Beppu
  • Beppu Ropeway + Mt. Tsurumi 
  • Yufuin Floral Village 
  • พักที่ Cottage kohan 

Day05 :: Fukuoka

  • Kirin Lake ทะเลสาบคินรินเลค
  • Café La Ruche
  • Yunotsubo street
  • Miyajidake Shrine 
  • Miyajihama Beach 宮地浜海水浴場
  • พักที่ Hotel Wing International Select Hakata Ekimae

Day06 :: Fukuoka 

  • 06.30 น. นั่ง sub way จาก hakata st. เข้า fukuoka airport domestic 
  • 07.00 น. นั่ง airport bus st.1 ไปที่ International airport 
  • 10.00 น.เดินทางกลับไทย

สรุปค่าใช้จ่าย


Day01

Bangkok Thailand > Fukuoka Kyushu

สวัสดีครับทุกคน ทริปไปเที่ยวคิวชูในครั้งนี้ผมเดินทางด้วยสายการบิน veitjetair ไปลงที่เมืองฟุกุโอกะ บอกเลยว่าเป็นอีกสายการบินที่เราสามารถบินตรงมากจากกรุงเทพฯ ได้เลยที่นั่งสบาย มีไฟลท์ให้เราได้เลือกอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากไปเที่ยวฟุกุโอกะ แบบฟินๆ แถมราคาสุดคุ้ม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดที่ https://bit.ly/3YwVudT แล้วอย่าลืมใช้โค้ด WPTFRIEND ด้วยน้าาา บอกเลยว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ

นอกจากนี้บนยังมีเครื่อง ขนม และอาหารให้เราได้เลือกกันอีกมากมาย ดีมากๆเลย ไม่ว่าจะหิวแค่ไหน สามารถติดต่อซื้อของจากพนักงานได้เลยครับ หรือสามารถสั่งจองมาล่วงหน้าได้เหมือนกัน

หลังจากที่เราเดินทางมายาวนาน ตอนนี้เราก็ถึงที่เมืองฟุกุโอกะเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เมืองมาถึงเราก็ทำการติดต่อรถเช่า ที่เราจองไว้ ซึ่งครั้งนี้ผมใช้บริการของบริษัท Toyota rent a car บริการดี ราคาไม่แรง ที่สำคัญจองง่ายมากๆ อีกด้วยครับ

รับรถกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลามุ่งหน้าไปยังจุดเช็คอินแรกของทริปนี้กันเลยดีกว่า

ขับรถมาสักพัก ตอนนี้เราก็มาถึงกันที่วัด “Nanzoin Temple” เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ที่วัดนี้ถือเป็นอีกวัดศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ครับ

ซึ่งไฮไลต์จะอยู่ที่มีพระพุทธรูปทองสำริดขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นหรืออาจจะของโลกเลยทีเดียว และยังมีรูปปั้นและพระพุทธรูปอื่นๆอีกเยอะมากๆในวัดนี้ครับ แต่อย่างที่บอกว่าสิ่งที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ วัดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญที่ชื่อเสียงของเกาะคิวชู เลยครับ บอกเลยว่าสายบุญไม่เคยพลาด

นอกจากนี้วิวยังสวยอีกด้วย

มาต่อกันที่ “Dazaifu Tenmangu หรือ ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกร” อีกจุดเช็คอินสายมูที่ไม่ควรพลาด

ซึ่งภายในจะมีเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกูคือซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะมิจิซาเนะเป็นนักวิชาการ นักการเมือง และนักเขียนที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้คนมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผลงานที่โดดเด่นในช่วงปีค.ศ. 800 – 900 จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษานั่นเอง ทำให้ที่นี่ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่ใครอยากประสบผลสำเร็จในด้านการแข่งขัน หรือการศึกษา ที่จะต้องมาขอพรกันครับ

ระหว่างทางกลับเข้าเมืองฟุกุโอกะขอแวะถ่ายรูปชิลๆ กันที่ Mikasa River ถือเป็นอีกมุมที่ดูแล้วเงียบสงบมากๆ เลยครับ

ตอนนี้เราก็กลับเข้ามาในตัวเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคืนนี้ผมพักกันที่ lyf tenjin fukuoka ครับ เป็นที่พักที่สะอาด สวยงาม พื้นที่กว้าง ราคาไม่แรง อยู่ใจกลางเมืองอีกด้วย

บรรยากาศภายในโรงแรม และก็ห้องพักครับ น่ารักมากๆ

หลังจากที่เก็บกระเป๋า นอนพักกันสักแปบ ก็ได้เวลาเดินไปออกห่อะไรกินกันยามค่ำคืน ซึ่งคืนนี้ผมมาเดินกันที่ย่าน Tenjin จะมี Street food หรือร้านอาหาร ให้เราเลือกมากมายเลยครับ รสชาติดี ราคาไม่แรงครับ

มื้อค่ำของวันในวันนี้ครับ ฟินเลยทีเดียว


Day02

Fukuoka > Kumamoto

อรุณสวัสดิ์ครับ เช้าในวันนี้เรามานั่งคาเฟ่ชิลๆ กันที่ร้าน Toffee park ครับ ร้านนี้เป็นคาเฟ่ที่มีเครื่องดื่มหลักเป็นน้ำเต้าหู้ซะส่วนใหญ่นะครับ เสิร์ฟพร้อมเบเกอรี่ รสชาติดีเลยครับ

ตัวร้านก็ตกแต่งน่ารักมากๆ และที่สำคัญบริเวณรอบๆ ร้านจะมีคาเฟ่ชื่อดังอีกเพียบเลยครับ ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวในโซนนี้แนะนำมาแต่เช้าๆ หน่อยนะครับ เพราะคนเยอะมากๆ

หลังจากเที่ยวในเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราก็ขับรถมายังเมือง Kumamoto กันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจุดเช็คอินแรกของเมืองนี้คือ Kumamon Port Yatsushiro นั่นเอง

คุมะมง พอร์ต (Kumamon Port) ที่เมืองยัตสึชิโระ (Yatsushiro) เป็นท่าเรือและสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) มีพื้นที่สวนที่เต็มไปด้วยรูปปั้นเจ้าหมีคุมะมงในหลากหลายอิริยาบถ บอกเลยน่ารักมากๆ

ตอนนี้เราก็ขับรุกลับเข้ามายังตัวเมืองใกล้กับที่พักของเรา ซึ่งที่นี่มีชื่อว่า สวนซุยเซนจิ (Suizenji Garden) ซึ่งที่นี่นับเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจังหวัดคุมาโมโต้เลย

ด้วยรูปแบการตกแต่งอย่างงดงามที่ลงตัวสุดๆ ภายในมีทั้งสถานที่ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมไปถึงย่อส่วนของหลายๆสิ่งที่มีเชื่อเสียงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบบิวะ ศาลาไม้ และสะพานหิน อีกทั้งยังมีสัตว์น่ารักๆอย่างนกกระเรียน หงส์ และปลาคาร์ฟให้ได้เห็นอยู่บริเวณบ่อน้ำที่อยู่ภายในสวนอีกด้วยครับ

หลังจากที่เราเดินเล่นยามเย็นที่สวนกันแล้ว ได้เวลาเดินทางไปยังที่พักในคืนนี้ครับ ซึ่งผมพักที่ Super hotel lohas kumamoto tennen onsen ราคาไม่แพง แถมมีบ่อออนเซ็นให้เราได้แช่ผ่อนคลายกันอีกด้วยครับ


Day03

Kumamoto-beppu 

สวัสดีตอนเช้าครับ วันนี้อากาศดีมาก เย็นสบาย ซึ่งเราขับรถจากที่พักมายัง ปราสาทคูมาโมโตะ ซึ่งที่นี่ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

ตัวปราสาทสวยงามมากๆ ซึ่งปราสาท Kumamoto เป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นด้วยเทคนิกทางสถาปัตยกรรมอันล้ำเลิศในสมัยนั้นในปีค.ศ. 1607 มันประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้างและอาคารหลายหลัง เช่น หอปราการปราสาทเล็กใหญ่กับคลังแสง ป้อมธนูที่มีบทบาทในการตอบโต้เมื่อถูกศัตรูรุกรานโจมตี วังที่ประทับ และอีกมากมาย

ซึ่งภายในปราสาททำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งประวัติความเป็นมา สิ่งของเครื่องใช้ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกัน บอกเลยว่าคุ้มค่าการราคาตั๋วแน่นอนครับ

ภูเขา Mt. ASO Nakadake Crater ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมากๆ เลยครับ ทั้งวิวทิวทัศน์มุมถ่ายรูป นอกจากนี้สายพิชิตภูเขาไฟไม่คงรพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่ถือเป็นภูเเขาไฟอีกหนึ่งลูกที่ยังดับไม่สนิทครับ

นอกจากนี้เรายังสามารถชมวิวมุมอื่นๆ ได้อีกด้วย ทั้ง  Kusasenri Ga Hama Grassland (ทุ่งหญ้าคุสะเซนริกะฮามะ), Kami-komezuka และ Daikanbo Viewpoint จุดชมวิวยอดเขาไดคันโบ ซึ่งแต่ละจุดบอกเลยว่าสวยมากจริงๆ

ถ่ายรูปเพลินกันเลยทีเดียว

หลังจากที่เราได้ถ่ายรูปตามจุดต่างๆ กันจนเสร็จแล้ว ได้เวลาเดินทางไปยังเมือง Beppu ซ฿่งในคืนนี้ผมพักที่ hotel new tsuruta นั่นเองครับ เป็นอีกที่พักที่ผมแนะนำเลยครับ ดีมากๆ


Day04

Beppu-Oita

เช้านี้ที่เมือง Beppu เรามาเดินเล่นกันที่บริเวณ Beppu tower และ Matogahama Beach ซึ่งเป็นอีกจุดที่คนพื้นที่ต่างมาพักผ่อนชิลๆ ริมทะเลกันที่นี่ครับ

มา Beppu ทั้งทีต้องห้ามพลาดกับการไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน Umi Jigoku Meguri Beppu บ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของที่นี่ ซึ่งเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนครับ เราจะเห็นควันไอน้ำพุ เต็มไปทั่วเมืองเลย

บ่อนรกหรือจิโกกุ (地獄, jigoku) ที่เบปปุ(Beppu) แหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น เรียกได้ว่าถ้ามาเบปปุแล้วต้องห้ามพลาดเด็ขาด โดยหลักๆ แล้วนั้นที่บ่อนรกของจิโกกุมีอยู่ด้วยกันถึง 8 บ่อแต่ละบ่อล้วนแต่มีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างกันไปครับ 

โดยสามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ส่วนแรกนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 6 บ่อ ตั้งอยู่ในเขตคันนาว่า(Kannawa) ประกอบด้วย Umi Jigoku, Oniishibozu Jigoku, Shiraike Jigoku, Kamado Jigoku, Oniyama Jigoku, Yama Jigoku โดยแต่ละบ่อจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กันครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทาง ในส่วนอีก 2 บ่อนั้นจะตั้งอยู่ที่เขตชิบาเซกิ(Shibaseki) ที่อยู่ห่างไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรครับ ประกอบด้วย Chinoike Jigoku และ Tatsumaki Jigoku 

มาต่อกันที่ Beppu Ropeway เพื่อขึ้นไปยัง Mt. Tsurumi ถ้ามาเบปปุจะต้องมาขึ้นกระเช้าชมวิวบนภูเขาให้ได้ ราคาไม่แพงวิวสวย ซึ่งช่วงที่ผมไปด้านบนยอดมีหิมะด้วยครับ ฟินมาก

ตอนนี้เราขึ้นกระเช้ามาด้านบนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งด้านบนนอกจากจะมีจุดชมวิวแล้ว ยังมีเทพเจ้าในเรื่องต่างๆ อยู่ตามจุดให้เราได้ไหว้ขอพรกันอีกด้วย บอกเลยว่าสายมูต้องถูกใจแน่ๆ เพราะมีทั้งเรื่อง การงาน การเงิน ครอบครัว สุขภาพ ให้เราได้ขอพรกัน

หลังจากเที่ยวกันจนเพลินได้เวลาขับรถมุ่งหน้าไปยัง Yufuin กันแล้วครับ แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางนั้น บกเลยว่าวิวระหว่างทางสวยมาก สวยมากจริงๆ

และแล้วเราก็ขับรถมาถึงกันที่เมือง Yufuin เป้นที่เรียบร้อยแล้วครับ วันนี้เรามาแวะเดินเล่นชิลๆ กันที่ Yufuin Floral Village หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอร์รัล นั่นเอง โดยตั้งอยู่ที่เมืองยูฟุอิน(Yufuin) ในจังหวัดโออิตะ(Oita) เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากๆ แห่งนึงเลยก็ว่าได้ครับ โดยหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นหมู่บ้านจำลองสไตล์ยุโรป มีกลิ่นอายยุโรปโบราณ บ้านอิฐที่แสนคลาสสิคเรียงรายอยู่บนถนนสายเล็กๆ ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด เหมาะสุดๆ สำหรับเดินชมนั่นนี่ชิลๆแถมจุดถ่ายรูปสวยๆ ก็เพียบเลยครับ

ซึ่งภายในนั่นจะมีทั้งร้านอาหารบรรยากาศเก๋ๆ และร้านขายของที่ระลึกที่มีความแฮนด์เมดไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของสะสมทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ ที่สำคัญแต่ละร้านงานเค้าดีจริงตกแต่งได้แบบสวยงามเย้ายวนให้เราก้าวเท้าเข้าไปช็อปปิ้งแบบไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว

หลังจากที่เราเดินเล่น เดินซื้อของกันไปแล้ว ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักกันครับ ซึ่งผมพักที่ Cottage kohan เป็นที่พักเรีวกังสไตล์ญี่ปุ่น อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบคินรินเลค อีกด้วยครับ

และนี่เป็นภายในของบ้านพักของเราครับ บริเวณภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องน้ำในตัว แต่ห้องอาบน้ำจะอยู่บริเวณด้านนอกนะครับ และไฮไลต์ที่ผมชอบมากๆอีกอย่างของที่นี่ก็คือมีบ่ออนเซ็นส่วนตัวนี่แหละ ดีสุดๆ ไปเลย


Day05

Oita > Fukuoka

เช้าวันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศฟินๆ กันที่ Kirin Lake ทะเลสาบคินรินเลค นะครับ ที่นี่ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่เลยครับ บรรยากาศดี วิวสวยมากๆ

ทะเลสาบคินริน เป็นทะเลสาบเล็กๆ ในเมืองยูฟุอิน ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 25 นาที น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไหลมาจากน้ำพุร้อนทำให้น้ำในสระอุ่นอยู่ตลอดเวลา และในตอนเช้าบริเวณผิวน้ำจะมีไอน้ำลอยขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยงาม ยิ่งมาเที่ยวเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว จะสวยมากๆ ครับ

เดินเล่นกันจนเพลิน ตอนี้เรามานั่งคาเฟ่ชิลๆ กันที่ร้าน Cafe La Ruche เป็นคาเฟาริมทะเลสาบที่วิวสวย และบรรยากาศดีสุดๆ ไปเลย

นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเครื่องดื่ม และเบเกอรี่บริการอีกด้วยครับ อร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน

จากคาเฟ่เรามาเที่ยวต่อกันที่ ถนนช้อปปิ้ง Yunotsubo Kaidou ที่นี่เป็นอีกแลนด์มาร์คสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างมาเดินเล่น เดินช้อปปิ้งกันอีกด้วยครับ

เรียกได้ว่าที่นี่เป็นถนนช็อปปิ้งที่ดังมากๆ ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งของเยอะและบรรยากาศก็ดีงาม โดยถนนสายนี้จะมีความยาวประมาณ 700-800 เมตร ซึ่งตลอดสองฝั่งถนนนี่จะมีร้านค้าหลากหลายประเภทสลับกับบ้านเรือนกันแบบลงตัวมากๆ แถมแต่ละร้านก็น่าแวะแบบสุดๆ ไปเลยครับ

จากเมืองยูฟุอิน ตอนนี้เราขับรถกลับเข้ามายังตัวเมืองฟุกุโอกะกันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนเข้าที่พักขอมาแวะขอพรกันที่ Miyajidake Shrine หรือศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ นั่นเอง 

ซึ่งที่นี่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมามากที่สุด เพราะเราสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ อีกด้วย นอกจากนี้ศาลเจ้ามิยากิดาเกะ ยังเป็นศาลเจ้าของผู้นับถือศาสนาชินโต ณ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งศาลเจ้าทั้งหมด 8 แห่ง จุดเด่นอยู่บริเวณศาลหลักจะมีเชือกชิเมะนะวะอันขนาดใหญ่ประดับไว้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ และนอกจากนี้ทางเดินหินขึ้นมายังศาล เมื่อหันกลับไปจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกซึ่งจะเป็นทางยาวทอดลงไปหาน้ำทะเล เป็นไฮไลท์เด่นที่ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์อันสวยงาม

นอกจากจุดเด่นจะอยู่ที่บันไดทางเข้าศาลเจ้าแล้ว ภายในยังมีอีกหลายจุดให้เราได้ไหว้ขอพรกัน ถ้าเพื่อนๆ ไปเที่ยวในช่วงซากุระบานบอกเลยว่าที่นี้เป็นอีกจุดถ่ายดอกซากุระที่สวยมากๆ อีกด้วยครับ

จากศาลเจ้าเราขับรถมาเที่ยวชิลๆ กันที่บริเวณริมชายหาดกันที่ Miyajihama Beach 宮地浜海水浴場 นั่นเองครับ จุดนี้เป็นอีกจุดที่เราสามารถมองเห็นได้จากบนบันไดที่เราไปถ่ายรูปกันมาครับ เพราะเป็นเส้นตรงเดียวกัน ยิ่งวันไหนฟ้าเปิด พระอาทิตย์ตกสวยมากจริงๆ

บริเวณชายหาดครับ เราสามารถมานั่งชิลๆ ชมวิว ฟังเสียงคลื่นซัดไปมา บอกเลยว่ามันฮีลได้มากจริงๆ 


Day06

Fukuoka > Bangkok Thailand

– 06.30 น. นั่ง sub way จาก hakata st. เข้า fukuoka airport domestic 
– 07.00 น. นั่ง airport bus st.1 ไปที่ International airport 
– 10.00 น.เดินทางกลับไทย

ขอบคุณที่อ่านมาถึงรูปสุดท้ายนี้นะครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กลับเพื่อนๆ นะครับ บอกเลยว่าคิวชูเป็นอีกเกาะของญี่ปุ่นที่มีที่เที่ยวเยอะมาก และที่สำคัญสวยๆทั้งนั้นเลยครับ ตามรอยแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน


ช่องทางการติดตาม ติดต่อ และอัปเดตข่าวสารกันได้ที่

Fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew

Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/

Twitter : https://twitter.com/widsawaphatiew

Website : https://widsawa.com/

YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCsw9Q84nu89AJ6GNvZfYcVA

TikTok : https://vt.tiktok.com/kCBPW1/

Leave a Reply