
“ลาว” ถือเป็นอีกประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของไทยที่ผมยังไม่เคยไปเที่ยวเลยครับ ซึ่งในครั้งนี้พอมีโอกาสไปเที่ยวแล้ว บอกเลยว่าเป็นอีกประเทศที่ผู้คนน่ารักมากๆ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัดวาอาราม ป่า ภูเขา ศิลปวัฒนธรรม คาเฟ่ อาหารการกิน ยิ่งเที่ยว ยิ่งหลงรักเลยครับ ซึ่งในเมืองที่ผมมาเที่ยวในครั้งนี้มีทั้ง หลวงพระบาง หนองเขียว เมืองงอย มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันมากๆ แต่รับรองว่าถ้าเพื่อนๆ ได้มาเที่ยว มาสัมผัสรับรองว่าจะต้องชอบเหมือนกันกับผมแน่นอนครับ
ทริปเที่ยว “หลวงพระบาง-หนองเขียว-เมืองงอย” 6 วัน 5 คืน งบ 5000 บาท!!! ผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ไดูกันเลยดีกว่าครับ😍😍
▶️ Plan Trip (6 วัน 5 คืน)
Day01- สนามบินดอนเมือง > หลวงพระบาง > Villa rattanakon > Joma Bakery Cafe > พระธาตุพูสี > ตลาดมืด
Day02- น้ำตกตาดกวางสี > น้ำตกแก้วมงคล > lat laeng garden (ตลาดลาดแลง)
Day03- หนองเขียว > meexai guesthouse > ผาชมนาง
Day04- ผาแดง > เมืองงอย > Say Lom Guesthouse
Day05- เมืองงอย > หลวงพระบาง > นกน้อย เกสเฮ้าส์
Day06- ทานอาหารเช้าที่ร้านเฝ่อ ป้าสมศรี > ตลาดเช้าหลวงพระบาง > พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง > วัดแสนสุขาราม > วัดเชียงทอง > The coffee club > Comma coffee > เดินทางกลับประเทศไทย


Day01
สนามบินดอนเมือง > หลวงพระบาง > Villa rattanakon > Joma Bakery Cafe > พระธาตุพูสี > ตลาดมืด

สวัสดีครับตอนนี้ผมเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ถึงสนามบินหลวงพระบางเป็นที่เรียบร้อยครับ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง หลังจากมาถึงที่หลวงพระบางแล้ว ผมแลกเงินที่สนามบินเพื่อซื้อซิมเน็ท และจ่ายค่าแท็กซี่เพื่อขึ้นมายังโรงแรมของเราครับ เราสามารถบอกกับคนขับรถได้เลยนะครับ ว่าเราพักที่ไหน

ซึ่งที่พักของเรามีชื่อว่า Villa rattanakon ห้องพักกว้างขวางมากๆ ราคาไม่แรง ผมพักที่นี่ด้วยกัน 2 คืนครับ





หลังจากที่เราเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเดินเล่นชมเมืองหลวงพระบางกันดีกว่า ซึ่งผมเดินออกมาจากที่พัก แวะทานข้าว หลังจากนั้นก็เดินต่อมาที่คาเฟ่ Joma Bakery Cafe



ที่นี่ถือเป็นอีกคาเฟ่สุดฮอตของเมืองหลวงพระบางเลยครับ โดยภายในร้านจะมีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และขนมเบเกอรี่บริการอีกด้วย






ในช่วงประมาณสี่โมงเย็นผมก็เดินไปยังบริเวณทางขึ้น “พระธาตุพูสี” เราสามารถซื้อตั๋วได้ที่จุดขายตั๋วก่อนขึ้นได้เลยนะครับ

ซึ่งที่นี่ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ประจำเมืองหลวงพระบาง และยังเป็นจุดชมวิวเมือง และพระอาทิตย์ตกริมโขงที่สวยมากๆ อีกด้วยครับ



พระธาตุพูสี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 150 เมตร กลางเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2337 โดยพระเจ้าอนุรุท เดิมเขาลูกนี้มีชื่อว่า พูสวง หรือ พูซวง แต่หลังจากที่มีฤาษีขึ้นไปอาศัยอยู่บนนั้น ชาวบ้านก็เรียกภูเขาลูกนี้ว่า พูสี หรือ พูษี ที่แปลว่า “ภูเขาของพระฤาษี”นั่นเองครับ โดยจุดเด่นของพระธาตุพูสี คือองค์พระธาตุที่มีรูปทรงเป็นดอกบัวสี่เหลี่ยมสีทองอร่าม สูงประมาณ 21 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริดเจ็ดชั้น


อย่างที่บอกไว้ว่าที่นี่ถือเป็นอีกจุดเช็คอินชมวิวและพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาดมากๆ

ชมวิว ชมพระอาทิตย์ตกกันจนเพลินแล้ว ได้เวลามาเดินเล่น เดินช้อปปิ้งกันที่ “ตลาดมืด” กันดีกว่าครับ บอกเลยว่าของขายเยอะมากๆ


ที่ตลาดมืดจะมีร้านขายของฝากเยอะมากๆ ราคาไม่แรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ให้เราได้นั่งกินชิลๆ กันอีกด้วย





ซึ่งในวันนี้ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ เจอกันพรุ่งนี้เช้าครับ
Day02
น้ำตกตาดกวางสี > น้ำตกแก้วมงคล > lat laeng garden (ตลาดลาดแลง)

อรุณสวัสดิ์สวัสดีตอนเช้าครับทริปในวันนี้ผมจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับไปเที่ยวกันที่น้ำตกตาดกวางสีครับ ในการเช้ารถเพื่อนๆ สามารถติดต่อได้ที่โรงแรม หรือร้านเช่ารถได้เลยนะครับ มีบริการเยอะมากๆ
เมื่อผมติดต่อเช่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาแว้นไปเที่ยวกันดีกว่า บอกเลยว่าสนุกมาก วิวดีสุดๆ พวกเราใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็แว้นมาถึงจุดจอดรถเป็นที่เรียบร้อยครับ หลังจากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าน้ำตกกันต่อเลย


น้ำตกตาดกวางสีเป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ประมาณ 32 กิโลเมตร และได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบางอีกด้วยครับ โดยน้ำตกตาดกวางสี มีจำนวนชั้นทั้งหมด 4 ชั้น และมีความสูงโดยรวมประมาณ 75 เมตร เนื่องจากที่นี่เป็นน้ำตกหินปูน น้ำในน้ำตกจึงมีสีเขียวมรกต สวยงามมากๆครับ บอกเลยว่าที่นี่ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คสุดฮอต สวยติดลำดับโลก สวยมากจริงๆ





หลังจากที่เราเล่นน้ำตก หามุมถ่ายรูปกันจนเพลิน ก่อนกลับขอแวะมาทานอาหารริมน้ำตกกันที่ “น้ำตกแก้วมงคล” ซึ่งที่นี่เปิดเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ที่วิวสวยมาก สวยมากจริงๆ เพื่อนๆ สามารถแวะมาเที่ยวกันได้นะครับ จะอยู่บริเวณทางขึ้นไปยังน้ำตกตากกวางสีครับ



หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาแว้นกลับเข้าตัวเมืองหลวงพระบางกันครับ ไปถึงก็ค่ำพอดี อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปหาอะไรทานกันที่ lat laeng garden (ตลาดลาดแลง) บริเวณตลาดมืดครับ ที่นี่ของกินเยอะมากๆ และคนก็เยอะมากเช่นกัน 5555
Day03
หนองเขียว > meexai guesthouse > ผาชมนาง

สวัสดีเช้าวันที่ 3 วันนี้ผมมีแพลนเดินทางไปยังหนองเขียวครับ ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามเรื่องรถไปหนองเขียวจากทางที่พักได้เลยนะครับ หรือว่าจะไปเช็คที่สถานีขนส่งสายเหนือได้เหมือนกันครับ
การเดินทางในทริปนี้ผมเริ่มต้นที่หลวงพระบางนะครับ ผมขึ้นรถตู้ในช่วงเวลา 09.00 น. เพื่อเดินทางไปที่หนองเขียว นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงที่หนองเขียวเป็นที่เรียบร้อยครับ ระหว่างทางบอกเลยว่าทรหดมากๆ หลุมเยอะสุดๆ ไปเลยครับ

เมื่อมาถึงแล้ว เราก็เดินเข้าที่พัก meexai guesthouse มีไซ เก้ตเฮ้า ราคาที่พักบอกเลยว่าถูกมากๆ คืนละ 200-300 บาทเท่านั้น




วิวของที่พัก บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆเลย


หลังจากที่พักผ่อน เก็บกระเป๋า อาบน้ำเรียบร้อย ได้เวลาเดินสำรวจหมู่บ้านหนองเขียวกันแล้วครับ และได้แวะมาจิบน้ำที่คาเฟ่ Couleur cafe restaurant ที่นี่ถือเป็นอีกคาเฟ่ที่วิวสวยมากๆ





เดินเล่นไป เดินเล่นมา ก็ได้เวลาเดินขึ้นผาชมนางกันแล้วครับ ที่จุดนี้ถือเป็นอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากๆเลยครับ

ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที กับระยะทาง ~500 เมตรก็ขึ้นมาถึงจุดชมวิวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ บอกเลยว่าสวยมากๆ


เป็นอีกแลนด์มาร์คชมพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาดมากๆ

วันนี้ขอลาไปด้วยบรรยากาศยามเย็นที่ผาชมนางนะครับ บ้ายบายครับ
Day04
ผาแดง > เมืองงอย > Say Lom Guesthouse

อรุณสวัสดิ์ สวัสดีตอนเช้าครับ วันนี้เรามีเเพลนเดินขึ้นผาแดง จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยมากๆ อีกแห่งของลาวเลยก็ว่าได้ แต่บอกเลยว่าระยะทางเกือบ 2 กม. และค่อนข้างชันเลยทีเดียว เหนื่อยมากๆ


ผมใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที ก็เดินขึ้นมาถึงยอดผาแดงเป็นที่เรียบร้อย พอถึงปั๊บอย่างแรกที่ทำบอกเลยว่าของนั่งก่อน555 เหนื่อยเอาเรื่อง


จุดชมวิวผาแดงถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่ใครมาเที่ยวหนองเขียว ไม่ควรพลาดเด็ดขาด สวยมากจริงๆ จุดนี้สามารถชมวิวได้ 360 องศา กันเลยทีเดียวครับ




วิวสวยมากจริงๆ

หลังจากที่เราเซ็ตเอ้าท์ออกจากที่พักที่หนองเขียวเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เรามารอนั่งเรือไปเมืองงอย ที่ท่าเรือชาวบ้านกันครับ การนั่งเรือจากที่หนองเขียวไปเมืองงอยจะมีด้วยกัน 3 รอบ 09.00/11.00/14.00 น. แต่ละรอบเพื่อนๆ จะต้องเช็คข้อมูลอีกครั้งนะครับ บางรอบเรือก็ไม่ออกครับ

แต่ในทริปนี้ผมได้เหมาเรือไปกลับพี่ๆ ที่จะไปเที่ยวเมืองงอยเหมือนกัน ราคาอยู่ที่ 100,000 กีบ ไปกลับ บอกเลยว่าคุ้มมากๆ เมื่อมากันครบแล้ว ประมาณ 11.30-12.00 น.เราก็เดินทางมุ่งหน้าสู่บ้านเมืองงอยกันครับ ระหว่างล่องเรือไป วิว 2 ข้างทางสวยมากๆ และน้ำก็แรงน่ากลัวไม่แพ้กัน ตื่นเต้นไปอีก 555

นั่งเรือมาประมาณ 1 ชม. พวกเราก็มาถึงหมู่บ้านเมืองงอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ แต่ ผมยังไม่มีที่พักเลยครับ เพราะไม่ได้จองมา 555


พอลงจากเรือเดินขึ้นหมู่บ้านปั๊บ มีลุงแก่ๆ มานั่งรอนักท่องเที่ยว แล้วถามเราว่ามีที่พักหรือยัง เราก็เลยเข้าไปดูที่พักลุง บอก้ลยว่าวิวดี ราคาถูกมากๆ ซึ่งที่พักมีชื่อว่า Say Lom Guesthouse ราคา 100000 กีบ หรือตีเป็นเงินไทยแค่ 200 บาทเท่านั้นเอง หลังจากที่เราได้ที่พักกันแล้ว ของนอนเอาแรงสักงีบหน่อยครับ เพลียมากจริงๆ

นอนพักกันงีบแล้ว ได้เวลาออกมาเดินสำรวจหมู่บ้านกันดีกว่า ด้วยความที่นี่ค่อนข้างอยู่ห่างไกล และเดินทางลำบาก ส่วนมากจะเดินทางด้วยเรือกันมากกว่า เลยทำให้ที่นี่ยังคงมีวิถีชีวิตดั้งเดิมอยู่ซะส่วนมากครับ





เดินเล่นกันจนเพลินแล้ว เริ่มหิวซะแล้วสิ เราก็มาทานอาหารกันอยู่ที่ร้านริมน้ำ ซึ่งร้านนี้อยู่ตรงที่พักของผมเลยครับ มีอาหาร และเครื่องดื่มให้เราได้เลือกกินกันอีกด้วยครับ



Day05
เมืองงอย > หลวงพระบาง > นกน้อย เกสเฮ้าส์

อรุณสวัสดิ์ สวัสดีตอนเช้าครับ วันนี้ผมตื่นกันมาตั้งแต่ 06.00 เช้าเพื่อมาใส่บาตร ตอนเช้าอากาศดีมากๆเลยครับ ชาวบ้านต่างเริ่มออกมาเตรียมตัวใส่บาตรกันแล้วครับ ทางผมก็พร้อมครับ เราสามารถซื้อของใส่บาตรได้จากร้านค้าชาวบ้านได้เลยนะครับ มีให้พร้อม




ใส่บาตรเสร็จเรียบร้อยได้เวลาหาอาหารประจำถิ่นกินกันดีกว่า เมนูนี้เรียกว่า ข้าวปุ้น คล้ายๆกับขนมจีนน้ำยาบ้านเราเลยครับ รสชาติถือว่ากินได้เลยครับ ราคาไม่แพงอีกด้วย






หลังจากนั้นเราก็มาไหว้พระกันที่ วัดโอกาสไชยธรรม (วัดเมืองงอย) วัดประจำหมู่บ้านของที่นี่ครับ ซึ่งวัดนี้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิประดิษฐานอยู่ ก็คือ พระเจ้าค้อง นั่นเองครับ





หลังจากไปไหว้พระกันมาแล้ว ต้องรีบมาเก็บกระเป๋ากันต่อ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือกลับไปยังหนองเขียว และนั่งรถตู้กลับหลวงพระบางครับ
เอาจริงการมาเที่ยวเมืองงอยในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเลยครับ ผู้คนน่ารักมากๆ ต้อนรับเป็นอย่างดี บรรยากาศก็ดี เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีแพลนมาเที่ยวหนองเขียว แล้วไม่รู้จะไปไหนต่อดี ผมแนะนำมาพักเมืองงอยสักคืนครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
Day06
ทานอาหารเช้าที่ร้านเฝ่อ ป้าสมศรี > ตลาดเช้าหลวงพระบาง > พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง > วัดแสนสุขาราม > วัดเชียงทอง > The coffee club > Comma coffee > เดินทางกลับประเทศไทย


สวัสดีเช้าวันสุดท้ายที่หลวงพระบางครับ ขอเล่าเรื่องเมื่อวานก่อน บอกเลยว่าทรหดสุดๆ เป็นการเดินทางที่ยาวนานมากๆ
การเดินทางครั้งที่ 1 นั่งเรือจากเมืองงอย ไปหนองเขียว ประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางครั้งที่ 2 นั่งรถตู้จากหนองเขียว กลับเข้าหลวงพระบางอีกประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งทางไม่ดีเลย บอกเลยว่าเพลียมาก
การเดินทางครั้งที่ 3 นั่งแท็กซี่เข้ากลางตัวเมืองบริเวณตลาดมืดเพื่อหาที่พักสำหรับคืนสุดท้าย
ซึ่งคืนสุดท้ายผมพักที่ นกน้อย เกสเฮ้าส์ อยู่บริเวณซอยของร้าน Joma Bakery Cafe คาเฟ่ที่วันแรกเรามาแวะครับ ราครที่พักถูกมากๆ ประมาณ 300 บาทเท่านั้นเอง พอเช็คอินเข้าห้องบอกเลยว่าหลับเป็นตาย เป็นวันที่เพลียมาก เดินทางทั้งวัน แถมป่วยอีกต่างหาก เกือบตุย 555

แต่เช้านี้เรายังรอด ถึงจะมีเจ็บคอไปบ้างก็ตาม จริงๆ แพลนเช้านี้ก็คือต้องตื่นไปใส่บาตร แต่ตื่นสายเลยอดเลยครับ ไว้โอกาสหน้าไม่พลาดแน่นอน


อาหารเช้าสุดฮอตของที่นี่และนักท่องเที่ยวก็คือโจ๊ก และร้านดังก็คือร้านประชานิยม แต่คนเต็มผมเลยกินร้านข้างๆ แทนละกัน ร้านนี้มีชื่อว่า ร้านเฝ่อ ป้าสมศรี อร่อยไม่แพ้กันครับ

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็มาเดินเล่นบริเวณตลาดเช้าหลวงพระบาง ซึ่งที่ตลาดก็จะมีของขาย ทั้งของสด ของแห้ง และอาหารขายเยอะเลยครับ





เดินทะลุตลาดมาอีกหน่อย ตอนนี้เราก็มากันที่ “พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง” กันครับ

หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือ หอคำ เดิมทีนั้นคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง จึงเรียกอีกชื่อว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2447 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ต่อมาปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง เมื่อ พ.ศ. 2519 โดยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต พระพุทธรูป และวัตถุโบราณ รวมถึงของขวัญจากต่างประเทศอีกด้วยครับ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ตกแต่งสวยงามมากๆ





หลังจากชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางเสร็จแล้ว ก็เดินเที่ยวต่อกันเลยครับ ซึ่งด้วยความที่นี่เป็นเมืองมรดกโลกทำให้ยังคงความดั้งเดิมไว้ ทั้งตึก บ้านเรือน และอื่นๆ อีกมากมาย สวยงามมากๆ ครับ



หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไปยัง “วัดแสนสุขาราม” หรือ วัดแสน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนถนนเชียงทอง วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2261 โดยตาเจ้ารั่ง ในสมัยเจ้ากิ่งกิสราช ชื่อของวัดแสนมาจากจำนวนเงิน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้าง วัดสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครเวียงจันทน์ ได้ 11 ปี นั่นเองครับ




เดินมาไหว้พระทำบุญต่อกันที่ “วัดเชียงทอง” อีกจุดเช็คอินชื่อดังของที่หลวงพระบาง

วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบาง และราชวงศ์ลาว ตั้งอยู่ในนครหลวงพระบาง สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2103 โดยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ปกครองราชอาณาจักรล้านช้าง ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือที่งดงามมาก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัญมณีของศิลปะล้านช้าง” เป็นวัดที่สวยมากอีกวัดหนึ่งเลยครับ



เที่ยวมาทั้งวันแล้วขอไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ ที่คาเฟ่กันก่อนดีกว่า ร้านนี้มีชื่อว่า The coffee club อยู่ไม่ไกลจากตลาดมืดเลยครับ


ภายในร้านตกแต่งสวยงาม และที่สำคัญเครื่องดื่มอร่อยไม่แพ้กัน


ก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ของเดินมานั่งคาเฟ่อีกร้านสักหน่อยร้านนี้มีชื่อว่า Comma coffee เป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอล ที่มุมถ่ายรูปสวยมากๆ

ถือเป็นอีกร้านที่ผมแนะนำเลยครับ เงียบสงบ มีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และเบเกอรี่บริการ ราคาไม่แรงอีกด้วยครับ





เที่ยวจนครบแพลนเที่ยวในวันนี้ของเราแล้ว ได้เวลาเดินกลับไปยังที่พักเพื่อเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้ และนั่งเเท็กซี่ไปยังสนามบินหลวงพระบาง เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยครับ

จบทริปเที่ยวลาว “หลวงพระบาง-หนองเขียว-เมืองงอย” 6 วัน 5 คืน เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ บอกเลยว่าเป็นอีกทริปที่ไปเที่ยวลาวครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆ เลย แต่พอได้ไปเที่ยว ไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนที่นี่แล้ว ถือเป็นอีกประเทศที่ผู้คนน่ารักมากๆ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาสให้ครั้งหน้าผมต้องกลับไปเที่ยวอีกแน่นอนครับ และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนมากๆ นะครับที่อ่านมาถึงรูปสุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ได้ไปเที่ยวตามรอยกันน้าาา
ช่องทางการติดตาม ติดต่อ และอัปเดตข่าวสารกันได้ที่
Fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew
Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/
Twitter : https://twitter.com/widsawaphatiew
Website : https://widsawa.com/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCsw9Q84nu89AJ6GNvZfYcVA
TikTok : https://vt.tiktok.com/kCBPW1/