(รีวิวญี่ปุ่น) | FUKUSHIMA in JAPAN : ในวันที่ได้สัมผัสหิมะครั้งแรก

เคยมั้ย…เคยมีความฝันว่าสักครึ่งหนึ่งในชีวิตอยากไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง แล้วประเทศในฝันของคุณคือที่ไหน ส่วนของผมนั้นคือที่ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ดูรายการ ดูรีวิว ดูหนัง ของญูี่ปุ่นมาตลอด และคิดมาตลอดว่าอยากไปเที่ยวมากๆ และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ตามมา มาดูสิว่าการไปญี่ปุ่นครั้งแรก และที่สำคัญเป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกอีกด้วย โคตรตื่นเต้น ฮ่าๆๆ มาดูกันว่าผมไปเที่ยวที่ไหนบ้าง

ซึ่งการมาญี่ปุ่นในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเมือง ฟุคุชิมะ ( Fukushima) ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าเมืองนี้ มีดีอะไรอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น อ้าวซวยละ ฮ่าๆ ไม่รู้อารายเลย รู้แค่เมืองโตเกียว เกียวโต ฮอกไกโด อะไรทำนองนั้นแหละ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

DAY01: เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของวิศวะ

เตรียมตัว เตรียมใจ เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วไปเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมบินสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น การเดินทางในครั้งนี้เราบินด้วยสายการบินการบินไทย บินจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 22.30 น.ถึง สนามบินนาริตะเวลาประมาณ 06.15 น. ตรงเป๊ะ (เวลาของประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมงนะครับ) หลังจากนั้นเราต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และไปรับกระเป๋าเดินทาง เมื่อเรา ตรวจคนเข้าเมืองผ่านแล้ว รับกระเป๋าแล้ว ก็เดินทางไปซื้อตั๋วรถไฟกันดีกว่าที่ Office JR East Travel Service Center เพื่อแลกเอาตั๋ว JR Pass (ที่นี่เปิดทำการเวลา 08.15 น. ตรงเวลาเป๊ะ ถ้าใครมาก่อนสามารถเดินเที่ยวเล่นรอก่อนได้เลยนะครับ) การเดินทางครั้งนี้เราใช้ JR East Pass (Tohoku Area) ในการเดินทางด้วยรถไฟนะครับ

ข้อมูล JR East Pass (Tohoku Area)
สำหรับเดินทางในภาคโทโฮะคุ คันโด ได้ไม่จำกัด แบบ 5 วัน
อายุการใช้งาน ใช้ได้แบบอิสระ 5 วัน ภายในระยะเวลา 14 วันนับจากวันที่เริ่มใช้
สถานที่ซื้อ ตัวแทนจำหน่ายในไทย (ซื้อจาก H.I.S.) หรือ ซื้อที่ญี่ปุ่น
ซื้อในไทย ราคา 19,000 เยน ซื้อที่ญี่ปุ่น ราคา 20,000 เยน (แพงกว่าไทย 1,000 เยน)
คลอบคลุมการเดินทาง เข้าไปอ่านที่นี่ได้ JR East Pass Tohoku Area

***ข้อมูลเพิ่มเติม 

https://th.his-bkk.com/japan-rail-pass/jr-east-pass/jr-east-pass-tohoku-area

เช็ครอบรถไฟที่ http://www.hyperdia.com

ข้อมูลบัตรTohokuพาส https://www.talonjapan.com/jr-east-pass-tohoku-ar

การแลกพาสก็ไม่ยากเลยเพียงแค่ นำ Passpport พร้อมใบ E-Ticket ไปแลกพาสตัวจริงแล้ว ก็ให้พนักงานจองตั๋วเดินทางกันต่อเลย เราจะไปฟุคุชิมะ ต้องจอง Narita Expess (N’EX) จากสนามบินนาริตะไปสถานีโตเกียว (Tokyo) และจอง Shinkansen Yamabiko จากสถานีโตเกียวไปเมืองฟุคุชิมะ (Fukushima) เราจะได้ตั๋วมา 2 ใบ แบบระบุขบวน คัน และเลขที่นั่ง แต่หากไม่จองก็ขึ้น Shinkansen ตู้ Non-Reserve ได้เพียงเเค่โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ตรงทางเข้าเอง แต่ต้องขึ้นให้ถูกขบวนด้วยนะครับ

(โอ้โห่ ข้อมูลแน่นมาก คิดเองใช่มั้ย เปล่า ก็อปของพี่เค้ามา ฮ่าๆ ขอบคุณข้อมูลที่เขียนไว้ด้วยนะครับพี่แหม่ม พี่ร่วมทริปของเรา นั่นเอง บอกเลยว่าข้อมูลการขึ้นรถไฟก็ยังก็อปของพี่แหม่มมาต่อเนื่อง ก็เราไปครั้งแรกอะเนาะ มันก็จะงงเล็กน้อย ฮ่าๆ )

การเดินทางของพวกเรา(บอกก่อนเลยนะครับทริปนี้เรามากัน 4 คนนะครับ) เริ่มต้น จาก Office JR East Travel Service Center เดินมุ่งหน้าไปชานชลาเพื่อขึ้น N’EX จากสถานีนาริตะไปลงสถานีโตเกียว ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 60 นาที

เมื่อถึงแล้วก็ลงมาเปลี่ยนขบวนที่ชานชลา 20 เพื่อขึ้น Shinkansen Yamabiko (JR Tohoku Shinkansen, E5 Series, E514-7) ขบวนสีเขียวคาดชมพูกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาทีครับผม ฮ่าๆ (ท่อนนี้ก็ก็อปพี่เค้ามา ถ้าเราเขียนเองหลงแน่ๆ) ระหว่างรอรถไฟมาเราไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า บอกเลยว่าอากาศเย็นมาก มากๆ

แอบถ่ายเจ้ๆ หน่อย

วิถีชีวิตของฮิปเตอร์

นี่แหละคือรถไฟที่เราจะไป แต่ แต่ ไม่ใช่ขบวนนี้นะครับ ถ่ายรูปรอไป อีกนาน ฮ่าๆ

สัมผัส และรับความรู้สึกว่าทริปนี้มันส์แน่ๆ

สังเกตอยู่นานว่าคนเสื้อแดงเค้ามาทำอารายกัน ที่แท้เค้ามาเก็บขยะนั่นเอง โคตรดีเลยอะ เวลารถไฟมาจอดพนักงานทุกครจะโค้งคำนับ 1 ครั้ง สุดยอดอะบอกเลย

ความเคลื่อนไหวของชีวิตผู้คน

ถ่ายรูปไปสักพักรถไฟก็มาแล้ว รีบไปขึ้นกันดีกว่า ป่ะๆ ตามมา

นั่งรถไฟมาประมาณ ชั่วโมงครึ่งเราก็มาถึงที่สถานีฟุคุซิมากันแล้วครับ ถึงปุ๊บก็หิวปั๊บ (การเที่ยวในครั้งนี้เรามีคุณอาการิเป็นคนแนะนำ และนำเที่ยวให้กับพวกเรา) เมื่อหิวก็ต้องเดินครับ เดินออกจากสถานีให้เร็วที่สุด เพื่อไปร้านที่อาการิพาไป …..จะพาไปร้านไหนกันน้าๆๆ ตามไปดีกว่า

สัมผัสแรกที่ได้สัมผัสกับหิมะ สิ่งที่เคยเห็นแต่ในทีวี ตามหนังสือต่างๆ และแล้ววันนี้มันเป็นจริงละเว้ย บอกเลยโคตรดีอะ โคตรฟิน โคตรเย็นด้วย ฮ่าๆ

อะไรมันจะขาวขนาดนี้

ขอไปยืนเท่ๆ ถ่ายรูปหน่อย อิอิ

อ้าวๆ อาการิไม่รอเลย แวะถ่ายรูปแปบเดียวเอง แต่นานมากบอกเลย ลืมความหิวไปทันที

อาการิพาเรามาที่ร้าน ฮานะเมจิ ซึ่งไม่ไกลจากสถานีเดินไปแปบเดียวก็หลง อะแฮร่ เดินไปแปบเดียวก็ถึงแล้ว

อาหารที่พวกเราสั่งก็จะมี เซ็ตข้าวหมูย่างราดซีอิ๊ว และเซ็ตทงคัทสึหมู ครับผม กินกันจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังจุดต่อไปกันดีกว่าเตรียมตัวขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปฟินกันจุดต่อไปดีกว่า

ก่อนไปขึ้นรถขอถ่ายรูปสักหน่อย ฮ่าๆ พี่ฝนนางแบบของเราเอง

รถมาแล้ว รีบซิครับ รีบเลย

หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว เราก็นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศระหว่างทางไป บอกเลยว่ายิ่งมองยิ่งฟิน ยิ่งมองก็ยิ่งเพลิน

นั่งรถมาสักพักเราก็มาถึงไร่สตอเบอรี่ Anbyo Ichigo Park เก็บกันสดๆ กินกันสดๆ บอกเลยลูกโคตรใหญ่ หวานก็หวาน ตอนพิมพ์ยังน้ำลายไหลอยู่เลย ฮ่าๆ

สำหรับคนที่สนใจนะครับ

ราคา 1,500 เยน/คน
ให้เวลาเก็บ 30 นาที
ที่เก็บ Strawberry Anbyo- Ichigo
โทรศัพท์ +81245532945

ลูกโคตรใหญ่อะ ยิ่งกินยิ่งเพลิน

ดูลูกที่กินดิ อย่างใหญ่ ดูหน้าด้วยว่าฟินขนาดไหน และสุดท้ายดูถาดใส่ขั้วที่ถืออยู่แล้วจะรู้ว่ากินไปเยอะขนาดไหน บอกเลยว่าเยอะมากๆ หมดกันไปเป็นแถวๆ กันเลย ฮ่าๆ กินไปกินมาหมดเวลาซะละ เสียดายจังแต่ลุงคงคิดว่า เออหมดเวลาอะดีแล้ว ไม่งั้นหมดไร่แน่ๆ ฮ่าๆ

หลังจากที่กินสตอเบอรี่กันจนอิ่ม จนฟินแล้ว ก็ออกมาหามุมถ่ายรูปกันดีกว่า บอกเลยว่ามันเต็มไปด้วยสีขาวของหิมะจริงๆ มาครั้งนี้โคตรคุ้มเลย ถ่ายกี่มุม มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พักกันแล้ว

อื้อหือ นั่งรถไป พร้อมกับดูแสงตะวันค่อยๆลับขอบฟ้า โคตรดีอะบอกเลย สวยมาก สวยจริงๆ

ดูดิโคตรสวย ยิ่งนั่งไป ยิ่งเพลินมาก แล้วยิ่งชอบมากด้วย

เมืองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มันสวยมากจริงๆ

ขนาดลำธารยังเป็นน้ำแข็ง

นั่งรถมาสักพักใหญ่ๆ จนเราหลับไปหลายรอบเหมือนกัน มาถึงฟ้าก็มืดหมดแล้ว เก็บข้าวเก็บของเข้าที่พักกัน คืนนี้เราพักที่ Urabandai Grandeco Tokyu Hotel

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/SdqN9sBRQ272

โทรศัพท์ : 0241-32-2530

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.grandeco.com/english/

พอมาถึงเราก็ขึ้นไปดูห้องกันก่อนเลย ซึ่งแต่ห้องจะมีขนาดแตกต่างกันตามประเภท

ซึ่งห้องที่เราจะนอนเป็นแบบ Western Room มี 2 เตียง เหมือนกับอันที่ผมนั่งเลย ฮ่าๆ

เหนื่อยแล้วขอนอนก่อนนะ ง่วงมาก แต่หิวมากกว่า ดูห้องเสร็จเรียบร้อยก็ลงไปกินอาหารเย็นกัน ไหนรูป รูปอาหารอยู่ไหน ไม่มีนะ ฮ่าๆ กินอย่างเดียวเลย ไม่ได้ถ่ายด้วย กินเสร็จขึ้นห้องอาบน้ำ นอน แต่จะนอนมั้ย ไปดูกัน

ยิ้มหน้าละลื่นเชียวนะ ไหนบอกว่าง่วงห๊ะ ดูน้ำดื่มข้างหน้าด้วย ไม่หมดเราไม่นอน ไม่หมดเราไม่นอน

แต่เอ๊ะทำไมน้ำดื่มมันยิ่งกินยิ่งมึนนะ สงสัย เริ่มสงสัย สงสัยไปสงสัยมาอ้าวหมดซะละพร้อมกับสภาพมึนๆ งงๆ กันไป ถึงเวลาแยกย้ายกันคนละห้องเพื่อหลับเพื่อนอนกันสักที เพราะพรุ่งนี้ยังมีความฟินรออยู่ บ๊ายบาย หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับผม

DAY02 : ลั้ลลา สนุก สุดหรรษา ตะลุยแดนหิมะ

อรุณสวัสดิ์ครับผม เห็นโรงแรมที่อยู่ข้างหลังเปล่า นั่นแหละเมื่อคืนที่เรานอนไง

ตื่นมาพร้อมกับความหิว ไม่รอช้าครับ อาบน้ำแต่งตัวเก็บข้าวเก็บของแล้วไปห้องอาหารกันเลยดีกว่า อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เลือกได้ตามใจเลยครับว่าอยากจะกินอะไร เมื่ออิ่มแล้วก็ไปเดินเล่น ถ่ายรูปเพลินๆ กันดีกว่า

ก่อนไปตะลุยหิมะ ขอมาถ่ายรูปเท่ๆ กันก่อนดีกว่า ฮ่าๆ เขินจัง ยังยังยัง ยังจะเขินอีกหรอ

เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปเล่นหิมะ ถามว่าเปลี่ยนมั้ย ตอบเลยว่าไม่ ใส่ทับลงไปเลยจ้า กลัวหนาวจัด ฮ่าๆ เออ ว่าแต่นี่คือเสื้อคู่ใช่มั้ย ใช่มั้ย ใช่ก็ใช่วะ ฮ่าๆ

กิจกรรมแรกของวันนี้คือ Snow Playing and Snow Rafting ค่าเช่าชุดคนละ 3,200 เยน อุปกรณ์ครบเซ็ค ต่อด้วย Snow Rafting คนละ 1,000 เยน กิจกรรม Snow Rafting ก็เหมือนกับนั่ง Banana Boat เลยครับต่างกันแค่เล่นบนน้ำกับเล่นบนหิมะ บอกเลยว่าโคตรฟิน เสียวนิดๆ ฮ่าๆ

เดี๋ยวๆ หน้ามันส์ไปมั้ย ยังไม่ได้ไปถึงไหนเลย

แอคท่าสักนิด ชีวิตจะป๊อบเค้าว่ามางั้น

เดี๋ยวๆ พึ่งตื่นมาเองนะ ทำไมง่วงกันเร็วจังครับ อากาศดีใช่มั้ย

ภารกิจนอนคลุกหิมะเริ่ม

แค่นี้ก็สนุกแล้วนะ ฮ่าๆ สนุกมาก

ทำหน้าละลื่นมาก สนุกแค่ไหนถามใจตัวเองดู กิจกรรม Snow Rafting ที่เล่นไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ แต่สนุกมากบอกเลย

กระโดดบนหิมะ ช่ายครับ ผมกระโดดบนหิมะ ถึงหุ่นจะเป็นแบบนี้ก็กระโดดขึ้นนะคราฟ ฮ่าๆ บอกเลยว่า มันดีมากจริงๆ ดีจริงๆนะ บรรยายยังไงก็ไม่เหมือนกับมาสัมผัสเอง

หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดเวลาสนุกแล้วสิ เห้อต้องเดินทางไปที่ต่อไปกันแล้ว ยังสนุกอยู่เลย แต่ก็ต้องไป

นี่อีกฝั่งครับก็จะเป็นที่เล่นสกีกัน บอกเลยว่าอยากเล่น แต่อดครับ เศร้าเลย

หนูน้อยมาโบกมือให้ น่ารักจัง หนูน้อยคนนี้เจอกันไปแล้วเมื่อเช้าตอนที่เราไปเล่นหิมะกัน น่ารักมาก

แก้มชมพูกันหมดเลยเด็กญี่ปุ่น

สนุกสุดขีดมาแล้ว ได้เวลาไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ Gold House Meguro อยู่ที่ Lake Hibara(ไหนรูปอาหาร ไม่มีครับ กินอย่างเดียวจริงๆ ฮ่าๆ ) บอกเลยวิวโคตรสวย และที่สำคัญบริเวณนี้เป็นทะเลสาบแต่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว โอ้โห่ สุดยอดเข้าไปอีก

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/y5ssnWabCHH2

รีวิว http://www.welovefukushima.com/unseen-in-fukushima-fishing/

นี่เราเดินอยู่บนทะเลสาบหรือนี่ ซึ่งข้างล่างนั้นเป็นน้ำ ใช่ครับ น้ำอื้อหือ สุดยอดอะ สวยมาก

ตื่นเต้น โคตรๆ เลย จะได้นั่ง Snowmobile แบบลากพ่วง ซึ่งลากไปบนทะเลสาบที่กลายเป็นธารน้ำแข็งอีกด้วย ตื่นเต้นไปอีก

นี่ไง เป็นไง โคตรได้ฟิลอะ

วิวก็สวย สวยมาก ยิ่งถ่าย ยิ่งเพลิน

มาเป็นคู่ด้วย ทะเลสาบถึงกับหวานไปเลย

วิวมันสวย ขอถ่ายรูปอีกแปบ

ก่อนกลับเราได้แวะไปชมการ Wakasagi fishing คือการตกปลากลางทะเลสาป ด้วยอุณหภูมิ -5 องศา ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาบอกเลยว่าสวยมากๆ และมากถ้าสนใจสามารถเข้าไปชมที่ http://www.g-megu.com/ ได้เลยนะครับ รับรองว่ามาแล้วจะม่ายเสียจายเลยจริงๆเพราะมันดีมาก (หลายคนอาจสงสัยว่าไหนรูปตกปลาละ ตอบเลยว่าไม่มีครับ ไม่ได้ถ่าย เค้าขอโต้ดด้วยน้า เลยออกมาถ่ายรูปชิวๆ กันอยู่ข้างนอก ชอบอะ บรรยากาศมันได้จริงๆ ฟินมาก

หลังจากที่เราไปเพลิดเพลินกันการทะเลสาบน้ำแข็งมาแล้วก็ได้เวลาขึ้นบก ฮ่าๆ เอ๊ะ คนนะไม่ใช่ปลา เค้าบอกว่ามาญี่ปุ่นต้องกินไอศกรีมท่ามกลางหิมะ รู้อย่างนี้ไม่ลองก็ไม่ได้แล้ว อ้าวลุย

พูดเหมือนกินเอง เปล่า พี่เค้าจะกิน แต่เราคงกินม่ายไหวแน่ๆ ฮ่าๆ

หลังจากนั้นเราได้เดินทางต่อไปยัง โรงแรม Urabandai Lake Resort ซึ่งโรงแรมนี้จะเป็นโรงแรมที่เราจะพักในค่ำคืนนี้ ก่อนจะได้พักในคืนนี้ บอกเลยว่าวันนี้ได้ไปทำกิจกรรมเด็ด เด็ดมาก คือการเดินตะลุยหิมะในป่า โคตรฟิน โคตรสวย โคตรชอบ หลงรักเลยอะบ่องตรง กิจกรรมที่เราจะเล่นต่อไปนี้คือ เดินรอบๆ บริเวณ Goshiki-numa Pond ราคากิจกรรม 4,500 เยน รวมอุปกรณ์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะชุดหมวก ถุงมือ ครบครัน บอกเลยว่าโคตรตื่นเต้น ตื่นเต้นตั้งแต่ฟังหัวหน้าทีมบรรยายแล้วอะ โคตรตื่นเต้นเลย เพราะฟังไม่ออก ฮ่าๆ ไปกันดีกว่า ใส่ชุดพร้อมแล้วก็ลุยเล้ย

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/65CzKkxPU8y

โทร 0241-37-1111

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.lakeresort.jp/

https://www.facebook.com/urabandailakeresort/

นี่คืออุปกรณ์ที่เราต้องใส่ เยอะมาก และเดินลำบากอยู่พอสมควร เดินไปล้มไป ฮ่าๆ แต่เป็นการล้มที่โคตรดีเลย ดีจริงๆอะ

เริ่มเดินครับ ดูดิ มันดีมากจริงๆ

หันซ้ายก็สวย

หันขวาก็สวย

สวยจริงๆ

อ้าว ทำไมเดินทิ้งเราซะแล้วละ

รีบสิครับ เร่งสปีดสุดฤทธิ์กันเลยทีเดียว

ยืนฟังหัวหน้าอบรมซะหน่อย ฮ่าๆ

ขอถ่ายรูปซะหน่อย มันสวยจริงๆ

จุดชมวิวจุดนี้เห็นภูเขาด้วยแหละ สวยจริงๆ มันสวยมาก

ตามธรรมเนียมครับผมต่อแถวกันกินหิมะ

โดยทางหัวหน้าหรือคนนำทางจะเตรียมช้อน น้ำผึ้ง หลังจากนั้นปีบน้ำผึ้งลงบนหิมะ แล้วเราก็เอาช้อนตักกิน บอกเลยว่ามันได้ฟิลมาก ไม่ลองไม่รู้จริงๆ

กินหิมะกันเพลิดเพลินแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับกันอย่างสนุกสนาน วิ่งบ้างเดินบ้าง ปกติบ้าง ล้มบ้าง ฮ่าๆ

เดินมาสักระยะนึงก็ถึงโรงแรมแล้ว เก็บข้าวเก็บของ เปลี่ยนชุด

หลังจากนั้นทางผู้จัดการโรงแรมก็พาเราไปเยี่ยมชมห้องประเภทต่างๆ ของทางโรงแรม มุมเด็ดๆ จุดชมวิวสวยๆ สงสัยใช่มั้ยว่าไหนรูปอะ รูปอยู่ไหน ฮ่าๆ เก๊าไม่ได้ถ่ายมาอะ แบตหมด แต่รับรองว่าสวยจริงๆ เข้าไปดูในเว็ปไซต์ของทางโรงแรมได้เลยนะครับ เมื่อเดินชมห้องเสร็จแล้ว เก็บข้าวเก็บข้าวของห้องพัก แล้วไปกินข้าวกันดีกว่า หิวแล้ว ป่ะๆ ตามมา

แต่บอกไว้ก่อนว่าไม่มีรูปน้า ฮ่าๆ กินอย่างเดียวจริงๆ อย่างที่นี้จะเป็นบุฟเฟ่ท์นะครับ เลือกได้ตามใจเราเลยว่าอยากจะกินอาราย หลังจากกินเสร็จก็ได้แยกย้ายกันพักผ่อน

รูปภาพจาก www.lakeresort.jp/hotspring/

แต่ก่อนนอนไอ้เราก็อยากลองแช่ออนเซ็นสักครั้งในชีวิต เห็นเค้าว่ามันดี บอกเลยว่ามันดีจริงๆ ร่างกายผ่อนคลายมาก ถึงตอนลงครั้งแรกมันจะร้อนหน่อยก็เหอะ แต่ค่อยๆ ปรับอุณหภูมิร่างกายเอา ถ้าถามว่าอายมั้ย บอกเลยว่าอายครับ แต่อายน้อยหน่อยเพราะไม่ใช่บ้านเรา ก็กลัวอะไร ฮ่าๆ แถมตอนที่แช่ไม่มีคนด้วย บอกเลยว่าโคตรดี ฮ่าๆ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปต้องลองไปแช่ดูนะครับ รับรองจะติดใจ

นอนแล้วนะครับ ฝันดีครับบ

DAY03 : เก็บเกี่ยวความสุข ความทรงจำ ทุกเรื่องราว ที่เกิดขึ้นทุกระยะของการเดินทาง

อรุณสวัสดิ์ สวัสดีเช้าวันใหม่ ตื่นมาพร้อมกับชมวิวนอกหน้าต่าง วันนี้หิมะตกแต่เช้าเลย ดูวิวจนเพลินแล้ว อาบน้ำเก็บข้าวเก็บของรีบลงไปข้างล่างดีกว่าวันนี้เราต้องไปเที่ยวที่จุดต่อไปกันอีก

ก่อนขึ้นรถขอถ่ายรูปแบบโอปป้าบ้าง เหมือนมั้ยครับ ถ้าไม่เหมือนเก็บไว้ในใจนะไม่ต้องบอก ฮ่าๆ

ลาแล้ว Urabandai Lake Resort ถ้ามีโอกาสจะกลับมาหาอีกนะ

ระหว่างนั่งรถไป บอกเลยว่าไม่สามารถวางกล้องลงได้เลย ดูดิมันสวยมากจริงๆ บรรยายความรู้สึกยังไงก็ไม่หมดต้องลองไปสัมผัสเอง แล้วจะชอบเลย

มากระซิบบอกก่อนว่าจุดที่เราจะไปนี้ ชอบมาก เที่ยวไปชิมไปบอกเลยว่ามึน จะเป็นที่ไหนน้า ไปดูกัน

นั้นก็คือที่ Homare Breway ,Unreian เป็นโรงงานสาเกนั่นเอง ชิมเพลินมาก และก็มึนมากด้วย ชิมแล้วอยากจะซื้อกลับทุกรสเลย เพราะมันมีเสน่ห์ต่างกันมากๆ แล้วแต่คนชอบเลย ถ้าใครได้มีโอกาสอย่างลืมแวะไปนะครับ

พิกัด : Tokiwa-cho 2706 Matsuyama-machi Muramatsu Kitakata City, Fukushima Prefecture 966-0902

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/Gk5GVwymvFN2

โทร 0241-22-5155

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.aizuhomare.jp/

วิวภายในโรงงานครับ เป็นไงละ เจอหิมะอีกแล้ว สวยอีกแล้ว

มุมถ่ายรูปก็เด็ด สวยมากๆ มากจริงๆ

ชิมสาเกกันจนมึนกันแล้ว เราก็ไปหาอะไรกินกันดีกว่า บอกเลยว่าร้านที่จะไปกินนี้อร่อยมาก และเด็ดมากๆ นั่นก็คือร้านราเมงนั่นเอง แต่ก่อนเดินไปร้าน เราก็ขอแวะถ่ายรูปกันเล่นสักหน่อย

ถ่ายรูปไป ถ่ายรูปมา เริ่มหิวแล้ว รีบเดินไปร้านกันดีกว่า ป่ะๆๆ ตามมา

เดินมาสักพักก็มาถึงร้านแล้ว นี่คือร้านราเมง บันไน โชคุโด (坂内食堂 – Bannai Shokudo) ซึ่งเป็นร้านราเมงชื่อดังแห่งเมืองคิตะกะตะ (喜多方市 – Kitakata) จังหวัดฟุคุชิมะ ใครมาแล้วพลาดร้านนี้ ถือว่าพลาดจริงๆนะครับ

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/JzUCSXntGtq

โทร +81 241-22-0351

ข้อมูลเพิ่มเติม http://ban-nai.com/kitakata.htm

http://shop.bannaisyokudou.jp/

https://translate.google.co.th/translate?hl=en&sl=ja&tl=th&u=http%3A%2F%2Fshop.bannaisyokudou.jp%2F

บรรยากาศภายในร้านครับ

มาแล้ว ราเมงมาแล้ว

ดูราเมงที่เราสั่งมาหน้ากินรึเปล่าครับ บอกเลยว่าเส้นนุ่มมาก เนื้อก็หนุ่ม น้ำซุปก็อร่อย บอกเลยว่ามื้อนี้ผมฟินสุด เพราะกินง่ายสุดละ สองสามวันที่ผ่านมา แทบกินรายไม่ได้เลย ฮ่าๆ แย่จัง

กินเสร็จแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศภายในร้านกันต่อ

หือ จะต้องออกจากร้านแล้วรึเนี่ย แต่ก็ต้องไปเพราะยังมีที่เที่ยวอื่นรออยู่ แต่ก็หายเศร้าได้ เพราะมีสาวมาส่งด้วยแหละ โบกมือให้เราอีกต่างหาก เขินเลยอะ อิอิ

ถ่ายรูปรวมกันหน่อย อ้าวแชะ

ได้เวลาเดินทางไปยังจุดต่อไป ตอนนี้ก็นั่งชมวิวข้างทางไปก่อน

สวยจริงๆ

ต้องบอกให้คนขับรถจอดถ่ายรูปหน่อยซะแล้ว

นั่งรถมาสักพักนึงก็มาถึงแล้ว ที่นี่คือ Tenkyōkaku เท็นเคียวคะขุ วิลล่า

ซึ่งที่ Tenkyōkaku เป็นนั่นวิลล่าหรือคฤหาสน์ของราชตระกูล อาริสึกาวะโนะมิยะ ซึ่งเป็น Royal Family ของอดีตจักรพรรดิ ถูกสร้างขึ้นในปี คศ.1908 เป็นบ้านพักต่างอากาศที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามเพราะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ Lake Inawashiro ปัจจุบันดูแลโดยจังหวัดฟุคุชิมะ ค่าเข้าคนละ 360 เยนต่อคน

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/ANoTajCHju62

โทร +81 242-65-2811

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tif.ne.jp/tenkyokaku/

https://www.facebook.com/tenkyokaku

บัตรเข้าชมบริเวณภายในครับ

สำหรับใครที่ชอบสะสมแสตมป์สถานที่แต่ละที่ ก็สามารถปั๊มกันได้นะครับ

เมื่อเราซื้อบัตรเข้าชมบริเวณภายใน แล้วเราขึ้นไปบนสุดของที่บ้าน แล้วมองลงมาด้านล่าง บอกเลยวิวโคตรสวย นี่เป็นฝั่งแรกนะ ถ้าอีกฝั่งโคตรสวยกว่าเพราอะไรถึงสวยกว่าไปดูกัน

ก็อีกฝั่งสามารถชมวิวของทะเลสาบ Lake Inawashiro ได้ นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมถึงมาตั้งคฤหาสน์อยู่ที่นี่

พอเราขับรถผ่านแล้วเจอเจ้าเรือหงส์ลำนี้ ถ้าไม่จอดถ่ายรูปถือว่าพลาดมากๆ หลังจากเห็นปุ๊บ ก็บอกให้พี่ขับรถจอดปั๊บเดี๋ยวนั้นเลย สวยมาก

Lake Inawashiro เป็นทะเลสาบ ที่เต็มไปด้วยเจ้าฝูงนกเป็ดน้ำและฝูงหงส์ขาว

น่ารักจัง บินไปมา อย่างชิว เห็นละอิจฉามันจริงๆ หลังจากที่เพลิดเพลินกับเจ้าเป็ดและหงษ์แล้วก็ได้เวลาไปยังจุดต่อไปนั่นก็คือ คือ

Taro Cafe นั่นเอง ร้านกาแฟที่วิวโคตรดี นังกินไปพร้อมกับชมวิว Lake Inawashiro อื้อหื้อ โคตรดีบอกเลย


เมนูที่เราสั่งมาแว้ว มาแว้ว อย่ารอช้าครับ รีบกินให้หมดแล้วก็กลับ เพราะเย็นแล้ว

ก่อนกลับเราแวะ 7-11 ญี่ปุ่นซะหน่อย ว่ามีอะไรบ้างน้า บอกเลยว่าเพียบ โดนๆทั้งนั้น รีบซื้อต้องรีบออกทันที ไม่งั้นจะอดใจไม่ไหวอีก

พระอาทิตย์เริ่มตกดิน แสงค่อยๆ จางลง เราก็นั่งรถไปเรื่อยๆ จนถึงที่พัก โรงแรม Hotel Listel Inawashiro บอกเลยว่าโคตรตื่นเต้น ตื่นเต้นตั้งแต่ไฟทางเข้าโรงแรมแล้วอะ เปิดไฟเป็นรูปธงชาติไทยด้วย และที่สำคัญพนักงานถือป้ายมารอรับพวกเราด้วย บอกเลยในใจโคตรตื่นเต้น อย่างกับเรากลับมาจากแข่งกีฬาโอลิมปิคเลยไม่ได้เหวอนะ มันจริงๆ ดูดิ ต้อนรับเราอย่างดีเลย มีความสุขมาก สำหรับคืนสุดท้ายนี้

***ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด https://goo.gl/maps/KaNncju6UrQ2

โทร +81 242-66-2233

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.listel-inawashiro.jp/english/

รูปภาพจาก www.booking.com

มืดแล้วเริ่มหิวซะแล้วได้สิเวลากินข้าวกันแล้ว ป่ะๆ กินข้าวกัน ก่อนไปกินข้าวทางโรงแรมก็ได้พาเราไปชมบรรยากาศห้อง ที่พัก บริเวณโรงแรมว่ามีอะไรบ้าง โคตรดี วิวก็ดี พนักงานก็ดี กิจกรรมก็มีให้เล่นมากมาย หลังจากดูห้องเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายพักผ่อนกันตามสบายใจเลย ผมนั้นก่อนนอนขอมาแช่ออนเซ็นผ่อนคลายชิวๆ ซะหน่อย มันดีจริงๆ ต้องลอง แช่ไปสักพักพอร่างกายสบายก็กลับห้องไปนอนกันดีกว่า นอนก่อนน้า ฝันดีครับ

DAY04 : วันสุดท้ายแล้วนะ…ที่ญี่ปุ่น

อรุณสวัสดิ์ เช้าสุดท้ายที่ญี่ปุ่น ยิ่งมองความรู้สึก มันก็ไม่เหมือนเดิม

บรรยากาศด้านนอกของโรงแรมครับเช้านี้หิมะก็มาต้อนรับเราอีกตามเคย มาทุกวันเลย สงสัยคิดถึงเราแน่ๆ

กิจกรรมของทางโรงแรม มีให้เล่นมากมาย ติดต่อสอบถามได้เลยน้า

ยิ่งมองก็ยิ่งใจหาย ว่าเราจะต้องกลับจริงๆ แล้วหรอเนี่ย

แต่สุดท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

ขอบคุณการต้อนรับอย่างดีไม่ว่าจะเป็นตอนมา หรือตอนกลับ ก็ยังส่งเราด้วยรอยยิ้มเสมอ ขอบคุณมากๆ ครับ

ก่อนเดินทางกลับเราได้มาแวะที่ Aizubange-machi Kawanuma-gun ซึ่งอยู่บริเวณ Lake Inawashiro

ซึ่งบริเวณนี้สามารถชมนกเป็ดน้ำ กับเจ้าหงษ์ขาวได้ด้วย

ดูดิเจ้านกบินขึ้นมาหาด้วย เชิดหน้าใส่เราเลยนะเจ้านก

วิวโคตรดี

บรรยากาศโคตรได้อะ

ยิ่งถ่ายยิ่งเพลิน ยิ่งเดินก็ยิ่งหนาว

สวยมาก หิมะหน้ามาก

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลง ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว เศร้าเลย

นั่งดูวิวข้างทาง พร้อมกับเก็บความทรงจำไว้ให้ได้มากที่สุด

วิวโคตรดีเลย เค้าบอกว่านั่นคือต้น ซากุระ นะ อื้อหือ ขนาดดอกยังไม่ออกยังสวยขนาดนี้ ถ้าดอกออกจะสวยขนาดไหน

บ๊ายบาย Fukushima ถ้ามีโอกาสจะกลับมาหาอีกนะ

นั่งรถมาสักพักเราก็มาถึงที่สถานี Koriyama ใหญ่มาก มองไปทางไหนก็ยังตื่นเต้นอยู่ตลอด

พอมาถึงสถานี Koriyama เราก็ไปซื้อตั๋วกันเลยดีกว่า

ขากลับรอบนี้ได้นั่งชินคันเซ็นที่ Yamabiko ต่อด้วย N’EX ถึงสนามบินนาริตะเลยครับ

ต้องกลับจริงๆ แล้วใช่มั้ย หือๆ คิดถึงนะ Fukushima จะกลับไว้ในความทรงจำตลอดไป เพราะเจ้าคือเมืองแรกที่ทำให้เราได้มาสัมผัสต่างประเทศ และสัมผัสประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก

อาการิยังรอส่งเราอยู่เลย ขอบคุณอาการิที่ดูแลเราเป็นอย่างดีด้วยนะครับ ขอบคุณมากจริงๆ ที่ทนความดื้อของพวกเราได้

ขึ้นมารอรถไฟ เก็บภาพบรรยากาศ ความทรงจำ ไว้ให้ได้มากที่สุด ยืนรอสักพักนึงรถไฟก็มาแล้ว

วิวข้างทางระหว่างกลับ ยังคงสวยงามเสมอ

นั่งรถไฟไปจนถึงสถานีโตเกียว หลังจากนั่นเราก็นั่ง N’EX ถึงสนามบินนาริตะ

เช็คอินตั๋วที่สายการบินการบินไทย รอเวลาเดินทางกลับสู่แผ่นดินสยามประเทศไทยบ้านเรา

เสื้อผ้าที่ใส่ตลอดทริปนี้ ขอบคุณทางร้าน 24dec เช่าเสื้อกันหนาว เช่าชุดกันหนาว เช่ากระเป๋าเดินทาง เช่ารองเท้าบูท ด้วยนะครับที่ให้การสนับสนุกเสื้อผ้าชุดกันหนาวสำหรับใส่ตะลุยหิมะมาตลอด 4 วัน ขอบคุณมากๆ ครับผม

ถ้าใครสนใจเช่าชุด แบบประหยัดค่าใช้จ่ายจะได้ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าไปเยอะ บอกเลยว่าคุ้มมาก เสื้อผ้าที่ร้านก็มีให้เลือกมากมาย แถมดีๆทั้งนั้น และยังบริการดีอีกด้วย

ถ้านสนใจสามารถติดต่อได้ที่ www.24decrent.com

หรือ FB : https://web.facebook.com/24decrent/

หรือโทร 063-441-9210

พิกัด https://goo.gl/maps/Ygom4E4Trdo

สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆ ทั้งสามคน พี่แหม่ม พี่อุ๊ พี่ฝน ที่ดูแลน้องเป็นอย่างดี ทำให้การมาต่างประเทศครั้งแรกในครั้งนี้ เป็นความทรงจำที่โคตรมีความสุข สัญญาว่าจะคิดถึงทริปนี้ตลอด และจะอยู่ในใจตลอดไป ขอบคุณมากๆ นะครับ และที่สำคัญขอบคุณทาง Welove Fukushima ด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับโอกาสในการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของวิศวะ แถมยังได้เที่ยวประเทศญ๊่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งเป็นประเทศในฝันของผมเลยก็ว่าได้ ขอบคุณมากนะครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ วิ ศ วะ พ า เ ที่ ย ว ที่ได้

Facebook fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew/

Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/?hl=th

Wedsite : https://widsawa.com/

Leave a Reply