(รีวิวไต้หวัน) | Sun moon lak – Alishan – Taipei (4 วัน 3 คืน) งบ 8000 นิดๆ ก็ไปเที่ยวไต้หวันได้

ไต้หวัน 🇹🇼 ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผมอยากไปมากๆ และในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปเที่ยวไต้หวัน บอกเลยว่าหลงรักประเทศนี้มากๆ ทั้งธรรมชาติ การเดินทาง อาหาร ผู้คน และอะไรอีกหลายๆ อย่าง มันมีเสน่ห์มากจริงๆ ยิ่งอยู่ ยิ่งไม่อยากกลับ 😊 บอกเลย #ต้องมีรอบสองแน่นอน 💚💚 ไปดูกัน ว่าทำไมผมถึงอยากกลับไปเที่ยวอีก สวยมากจริงๆ จริงๆ นะ ไม่เชื่อ

………………………………….

▶️ Plan Trip (4 Day 3 Night)

Day01 – Thailand > Taiwan > Sun moon lake

Day02 – Sun moon lake > Alishan

Day03 – Alishan > Taipei > Xiangshan Elephant Moutain > Ximending Night Market

Day04 – Taipei > Longshan Temple > Bopiliao Historical > Chiang Kai-Sheck Memorial Hall > Thailand

plan trip taiwan

▶️ สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดทริป

ทั้ง 4 คืน 3 วัน พวกเราใช้จ่ายไปทั้งหมด 15,593 บาท หรือคนละประมาณ 8,000 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าซื้อของฝากนะครับ บางคนอาจจะถูกกว่านี้ หรือแพงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการกินเลยครับ ฮ่าๆ ของกินเยอะมากจริงๆ 🤣🤣

*** รายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ***

1

2

การเดินทางของผมในทริปไต้หวัน 4 คืน 3 วันนี้ จะไปไหนบ้าง สวยงามขนาดไหน ตามไปดูกันเลยยยย รับรองว่าคุณจะต้องอยากตามมาเที่ยวแน่นอน

——————————————————-

Day01 – Thailand > Taiwan > Sun moon lake

20.00 น.(24/01/19) เราเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองเพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเถาหยวน(Taipei)

S__19439646

บินไปไต้หวันครั้งนี้ผมบินด้วยสายการบิน Tigerair Taiwan นะครับ สายการบิน Tigerair Taiwan ถือเป็นสายการบินที่บินตรงจากไทยสู่ไต้หวัน แถมราคาตั๋วยังสบายกระเป๋าเราอีกด้วย คุ้มสุดๆ บอกเลย ที่นั่งก็กว้าง การบริการ การดูแลก็ดี บินก็ตรงเวลา แถมอาหารยังอร่อยอีกด้วย บอกเลยถ้าคุณเลือกบินกับ Tigerair Taiwan คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

FB: Tigerair Taiwan

หรือจะตรวจเช็คโปรโมชั่น ราคาตั๋วไปไต้หวัน ได้ที่

Website: http://www.tigerairtw.com/th/

Applications: TigerairTaiwan

ดูอาหารดิ น่ากินมากๆ ที่สำคัญช้อนน่ารักมาก มากที่สุด ผมชอบมาก เลยเก็บมาด้วยแหละ อย่าบอกใครนะ ฮ่าๆ 🤣🤣 จะบินดึกแค่ไหนไม่ต้องกลัวหิว

00.40 น.(25/01/19) เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน (เวลาที่ไต้หวันจะเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมงนะครับ )

02.00 น. ผ่าน ตม. เรียบร้อย (รับกระเป๋า เตรียมเดินทางเข้าเมืองไทเปต่อ)

– เราสามารถซื้อซิมการ์ดได้จากที่นี่เลยนะครับ ที่เคาน์เตอร์ Telecommunication service ซึ่งแพ็คเกจ Sim card ราคาอยู่ที่ 300 NT (package 5 days)

***เคาน์เตอร์ขายแพ็คเกจซิมอินเตอร์เน็ตและ wifi ครับ อยู่บริเวณทางออก ชั้น 1 ของสนามบินครับผม

ซื้อซิมเรียบร้อย ขอนอนพักผ่อนสักแปบ ก่อนเดินทางเข้าเมือง

และนี่ไงพื้นที่สำหรับงีบของเรา มี wifi ให้เล่น ที่สำคัญมีไฟให้เราชาร์จแบตอีกด้วย 😊😊

05.00 น. เดินทางจากสนามบิน > Taipei main station

การเดินทางไป Taipei main ผมเลือกเดินทางด้วยรถบัส เพราะมีบริการ 24 ชม. ราคา 140 NT ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที (ผมใช้บริการของ Kuo-Kuang Moyer Transport

05.45 น. ถึง Taipei main station

***จุดศูนย์กลางการเดินทางทั้ง MRT THSR และรถบัส

เมื่อเราเดินทางมาถึงเข้า 7-11 ก่อนเลย หาอะไรกิน รอเวลาที่จุดขายตั๋วรถไฟ THSR เปิดบริการ ซึ่งจะเปิดบริการ 06.00 น. เป๊ะ บอกเลยเป๊ะมาก

06.00 น. ซื้อตั๋วรถไฟ THSR จาก Taipei main st. > Taichung st.

(การซื้อตั๋วรถไฟ THSR บอกเลยสะดวก ง่ายมากๆ ซึ่งผมได้ซื้อวอชเชอร์ตั๋วรถไฟจากไทยมาแล้ว เป็นวอชเชอร์นั่งรถไฟ THSR กี่รอบก็ได้ ใน 3 วัน ราคาประมาณ 2000 กว่าบาท

1200x630wa

ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียด และกดจองได้ที่

THSR : https://bit.ly/2WoG4sY

KKday website : https://bit.ly/2G38LWJ

หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

FB: @KKdayth

เมื่อเราซื้อแพ็คเกจตั๋วรถไฟอย่าลืมแคปหน้าจอ หรือปริ้นเอกสารการจองไปด้วยนะครับ

ตอนเราซื้อตั๋วรถไฟแค่ยื่นเอกสารการจอง แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าไปลงที่สถานีไหน รอบกี่โมง และกลับวันไหน รอบกี่โมง พอเราบอกรายละเอียดเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำสมุดตั๋วให้เราดังรูปเลยครับ

เวลาถึงสถานีปลายทาง เราจะออกประตูแค่ยื่นสมุดนี้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้เลย 🤣🤣

และนี่คือภายในของรถไฟฟ้า บอกเลยดีมากจริงๆ

06.30 น. เดินทางจาก THSR Taipei main st. > THSR Taichung st.

07.30 น. ถึงสถานี THSR Taichung st.

จาก Taipei main st. มายัง Taichung st. ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชม.

ก่อนเดินทางแวะซื้อชาสุดฮอตกินสักหน่อย ก็อร่อยดีเหมือนกันแหะ ราคาก็ไม่แพงด้วย 🤣

08.20 น. นั่งรถบัสจาก Taichung st. > Sun moon lake

*จากสถานี Taichung st. เรามาขึ้นรถบัสที่ชั้นล่างสุด

***จุดขายตั๋วชั้นล่างสุดครับ

หมายเหตุ!!! สำหรับใครที่มีแพลนทริปว่าจะไป Sun moon lake และ Alishan ต่อ ผมแนะนำให้ซื้อแพ็คเกจทัวร์

▶️ Sun moon lake – Alishan 5 day pass (เล่มสีม่วง) ราคา 450 NT (ราคานี้จะรวมค่าตั๋วรถบัสจาก Taichung st. ไป SML และจาก SML ไป Alishan)

▶️ Sun moon lake pass (เล่มสีฟ้า) ราคา 460 NT (ราคานี้จะได้ตั๋วนั่งเรือข้ามไปยังท่าต่างๆ ตั๋วนั่งกระเช้า และตั๋วนั่งรถบัสเที่ยวรอบ SML ตั๋วนี้จะมีให้เลือกหลายแพ็คแกจนะครับ สามารถเลือกได้เลย)

09.30 น. ถึง Sun moon lake (Shunishe visitor center) เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. เมื่อมาถึงแล้ว เราก็เอากระเป๋าไปเก็บไปที่โรงแรมที่เราจองไว้

เอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยว Sun moon lake กันครับ อย่าลืมเตรียม pass ที่เราซื้อมาด้วยนะ pass พร้อม คนพร้อม ลุย!!! 🤣🤣

เราเดินไปที่ท่าเรือ Shuishe pier เมื่อถึงท่าเรือแล้ว ก็ยื่น pass ที่เราซื้อมาให้เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะดึงตั๋วที่อยู่ใน pass ออก แล้วก็ปั้มตรายางที่แขนเรา แล้วก็จะบอกให้เราไปขึ้นเรือที่ท่าหมายเลขอะไร การปั้มแขนแสดงว่าเวลาเราขึ้นเรือจะไปท่าไหน เราแค่ยื่นแขนให้เจ้าหน้าที่ดู ก็สามารถขึ้นเรือได้เลย

ที่ SML จะประกอบไปด้วย 3 ท่า

1. Shuishe pier คือท่าที่เราขึ้นเรือจุดแรก

2. Xuanguang pier คือท่าที่ 2 ที่เราจะต้องไป จุดเด่นของท่านี้คือวัดพระถังซัมจั๋ง และร้านไข่ต้มใบชา และที่สำคัญมีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวยอดเขาอีกด้วย ระยะทางประมาณ 800 เมตรเอง แต่เหนื่อยมากบอกเลย 🤣🤣

***พระถังซัมจั๋ง

***ร้านไข่ต้มใบชา

***วัดที่เราเดินขึ้นมาจุดชมวิวด้านบนครับ บอกเลยวิวสวยมาก

3. Ita Thao pier คือท่าสุดท้าย และเป็นท่าที่เป็นไฮไลต์ของที่นี้เลยก็ว่าได้

Ita Thao ท่าสุดท้ายที่เรามา บอกเลย จุดเด่นของท่านี้คือการนั่งกระเช้า ดีมากจริงๆ บอกเลย วิวด้านบนสวยมาก

ดูดิ วิวดีมากจริงๆ

กระเช้าที่ผมเลือกนั่งเป็นแบบพื้นกระจกครับ สามารถมองเห็นวิวด้านล่างได้อีกด้วย

นอกจาก Ropeway จะขึ้นชื่อแล้ว ที่ท่า Ita Thao pier ยังมี Street Food ที่ขึ้นชื่อมากมาย และหลากลายด้วย บอกเลยแต่ละอย่างเด็ดๆ ทั้งนั้น ทั้งติ๋มซำเอย ข้าวเอย ไก่ย่าง ไก่ทอดเอย สุดยอดจริงๆ

และนี่เป้นไข่นกกระทาทอด ขายชุดละ 50 NT ได้เยอะพอสมควร ลักษณะเหมือนกันกับไข่นกกระทาทอดบ้านเราเลย แต่ที่ Ita Thao รสชาติจะไม่หวานเหมือนกับประเทศไทยเรา ถามว่าเป็นไง ตอบเลยว่า…ก็พอกินได้ และถ้าถามว่าที่ไหนอร่อยกว่ากัน บอกเลย!!!! ที่ไทยอร่อยกว่าครับ จริงๆ

นั่งกระเช้าไป – กลับ ครบรอบแล้ว ดื่มด่ำบรรยากาศเต็มที่แล้ว กินก็อิ่มแล้ว ก็ได้เวลานั่งเรือกลับไปยังท่าเรือ Shuishe pier เพื่อกลับที่พักของเรา

17.00 น. เดินทางกลับที่พัก

คืนแรกที่ SML เราพักที่ Yue Lake Backpacker เดินมาจากจุด Shuishe visitor center ไปที่พัก ประมาณ 3-4 นาที เท่านั้น ราคาที่พักคืนละ 1560 NT หรือ (1649.25 THB) เท่านั้น บอกเลยบรรยากาศดีมากๆ การต้อนรับ การดูแลก็ดี 🤣🤣

เมนูอาหารเช้าของเราที่โรงแรม ฟินสุดๆ แต่ไม่ค่อยอิ่ม เอ๊ะ!!! หรือว่าเรากินจุ ฮ่าๆ

——————————————————-

Day02 – Sun moon lake > Alishan

08.00 น. Check out ออกจากที่พัก

08.30-09.00 น. เตรียมตัวซื้อตั๋วรถบัสไป Alishan

อันนี้เราไม่ต้องเสียค่าตั๋วอีกรอบนะครับ เราซื้อแพ็คเกจการเดินทางไว้แล้ว เล่มสีม่วง บอกเลยถ้าคิดราคาจริงๆ ควรซื้อแพ็คเกจครับ จะคุ้มกว่ามากๆ

และอีกอย่างที่สำคัญใครที่จะนั่งรถบัสจาก SML > Alishan ควรส่งเมล์จองที่นั่งไว้ก่อนก็จะดีนะครับ เพื่อยืนยันการเดินทางของเรา

สามารถกรอกเอกสารได้ที่ ลิ้งค์ แล้วส่งเมล์ไปที่ smlntbus@gmail.com รวมถึง cc: ntbus.lin@msa.hinet.net)

ควรส่งเมล์จองที่นั่งก่อนเดินทางจริง 3-5 วันเป็นต้นไปนะครับ ถ้าเราจองเสร็จแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ตอบเมล์ยืนยันกลับมา

ตอนที่เราซื้อตั๋วจะไป Alishan เพียงแค่ยื่นอีเมล์ตอบกลับ และก็ pass ให้เจ้าหน้าที่ได้เลยครับผม

09.00 น. ออกเดินทางจาก SML > Alishan

12.30 น. ถึง Alishan (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม. บอกเลยทางขึ้นเขาตลอด วิวสวยมาก)

13.00 น. เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรม ซึ่งเราพักที่ Ali-shan Kaofeng hotel อยู่ห่างจาก Alishan st. ไม่มากนัก ราคา 2680 NT หรือ (2811 THB)

***ก่อนเดินมายังที่พัก เราต้องเสียค่าเข้าอุทยาน อีกคนละ 160 NT แต่เราเสียแค่ 150 NT เพราะได้ส่วนลดมา 10 NT จากคนขับรถบัส

13.30 น. เดินชม สัมผัสกับธรรมชาติ ที่เขตอุทยานฯ บอกเลยอากาศดีมาก ประมาณ 10 องศากว่าๆ เอง โคตรดีอะ 🤣🤣

ระยะในการเดินประมาณ 5 กม. ตลอดทางเดินจะมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดไม่หลงแน่นอน ซึ่งจุดที่อยู่ในรูปนี้จะอยู่บริเวณ Zhaoping st.

ผมเดินจากจุดเริ่มต้นที่ Alishan st. > Zhaoping st. > The sister pond > Shauzhen temple > Sacred Tree st. > Alishan st.
alishan-2
Cherry Blossom Route Map @ Alishan, Taiwan

จุดที่เราจะเดินก็จะประมาณตามแผนที่นี้เลยครับ ลัดบ้าง เลยบ้าง หลงบ้าง ตามประชาเรา ฮ่าๆ หรือสามารถเอาแผนที่การเดินสำรวจธรรมชาติอีกทีได้ที่โรงแรมหรือสถานีรถไฟนะครับ

บอกเลยยิ่งเดิน ยิ่งฟิน ด้วยอากาศ ด้วยภูมิทัศน์ ความเขียว ความเป็นธรรมชาติ เดินเท่าไหร่ก็ไม่เหนื่อย ฟินมากจริงๆ

เจอมุมเด็ดขอนั่งถ่ายรูปสักหน่อย

เราเจอน้องอีกแล้ว เลยขอถ่ายรูปด้วยซะเลย น้องคนชื่อมีว่า kaka หรือ กาก้า ครอบครัวน้องได้เดินทางด้วยรถบัสจาก SML มาพร้อมกับเรา แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยสนิท และไม่ได้ถามชื่อ ซึ่งตอนมาเดินป่าเราก็มาบังเอิญเจอครอบครัวน้องอีกครั้ง เลยได้ทักทายกัน ซึ่งครอบครัวน้องมาจากกว่างโจว ครับ พอคราวนี้ทักทายเท่านั้นแหละ ติดยาวเลยคราวนี้ น้องน่ารักมาก จะเดินตามตลอด ผมก็จะถ่ายรูปน้อยตลอด น้องน่ารักมากจริงๆ

เราก็เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงที่ The sister pond ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลต์อีกจุดของที่นี้เลยก็ว่าได้

ที่ The sister pond เค้าว่ามีตำนานเล่าขานด้วยนะครับ ตำนานเล่าว่า เกิดจากพี่น้องชาวไต้หวันสองคนที่หลงรักผู้ชายคนเดียวกันแต่ไม่อยากที่จะมีปัญหา เลยเลือกที่จะจบชีวิตด้วยการกระโดดลงไปในบ่อน้ำแห่งนี้ นั่นเอง และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อบ่อน้ำแห่งนี้ครับผม

เวลาเราเดินไปเรื่อย ถ้ามองดูระหว่างทางเราก็จะเห็นตอไม้รูปทรงแปลกตา อยู่เป็นระยะ ซึ่งแต่ละตอก็จะมีความสวยงาม ไม่เหมือนกัน แต่ผมมาสดุดกับตอไม้ ตอนี้ ซึ่งมันมีลักษณะรูปร่างคล้ายหมูป่านั้นเอง ซึ่งบางมุม ผมก็มองเห็นคล้ายๆ ช้างบ้าง หมูบ้าง ต้องลองไปดู สวยมากๆ

อยู่ใกล้ๆ กัน เราก็จะเจอตอไม้รูปหัวใจ ซึ่งแปลกมากจริงๆ ลองดูว่าเหมือนมั้ย!!!

เดินต่อมาอีก เราก็จะมาถึงที่ Shauzhen temple วัดกลางป่า ที่บรรยากาศดีมากๆ

มีต้นซากุระด้วย

เรามาเจอน้องกาก้าอีกแล้ว แค่ผมหันกล้องไปน้องก็ชูนิ้วรอเลย น่ารักอะไรขนาดนี้อาตี๋น้อย

จากวัดเราก็เดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ความฟินกำลังมาถึง บอกเลยโคตรดีใจ ที่ได้เจอ

ต้นซากุระ ช่ายแล้ว นี้คือซากุระ จริงๆ ไม่ได้โม้ ด้วยความที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอซากุระที่นี้ แต่พอมาเจอแล้ว โคตรตื่นเต้นอะ ได้เห็นซากุระต้นจริงๆ แล้วโว้ย ดูจากรูปมานาน บอกเลยสวยมากๆ

สวยมากจริงๆ อะ หมอกฟุ้งๆ กับดอกซากุระสีชมพู เข้ากันมากๆ

มาถึงถิ่นแล้ว จพลาดถ่ายรูปได้เยี่ยงไร หามุม แล้วจัดสักภาพ ฟินมากๆ บอกเลย

เจอเจ้าอาตี๋น้อยอีกแล้ว น้องแค่เห็นเราอยู่ตรงไหน น้องก็วิ่งมาหาทันที

เพลิดเพลินกับซากุระแล้ว เราต้องรีบเดินไปยังจุดไฮไลต์สุดท้ายของที่นี่ ผมมาที่นี่ก็เพราะอยากไปที่นี่แหละ สวย บรรยากาศดีมาก และที่สำคัญรถไฟเที่ยวสุดท้ายมีแค่ 16.30 น. เท่านั้น เดินสิครับ รีบเดิน ไม่เช่นนั้นได้เดินยาวแน่นอน 🤣🤣

และแล้วเราก็เดินมาถึง Sacred Tree station ที่อุณหภูมิ 8 องศา หูย หูย อากาศดีไปอีก หมอกฟุ้งๆ กับบรรยากาศเย็น ดีมาก สวยมาก

ขอถ่ายรูปสักหน่อย🤣✌🏻

เป็นอีกที่ ที่ผมชอบมากๆ ใน Alishan อะไรจะสวยขนาดนั้น สถานีรถไฟ ที่อยู่กลางป่า ท่ามกลางหมอกฟุ้งๆ โคตรสวยอะ

รถไฟเที่ยวสุดท้ายมาพอดีเลย

เป็นที่ที่ถ่ายรูปเพลินมากๆ และชอบมากๆ ด้วย 💚💚💚 รักเลย

16.30 น. นั่งรถไฟแดงสุดคลาสสิคจาก Sacred Tree St. > Alishan st. ค่าตั๋ว 100 NT

17.00 น. ถึง Alishan st.
17.30
. มื้อเย็นสุดพิเศษ ชาบู ชาบู ถ้าใครไปอย่าลืมแวะไปนะครับ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่มีอยู่ร้านเดียวนะครับ ร้านอยู่ทางลงบันได ชั้น 2 ลองสังเกตดูนะครับ ราคา 430 NT รวมกับข้าวอื่นๆ 🤣🤣
กินเสร็จ หนังตาเริ่มหย่อน ด้วยคงามเหมื่อยล้า เดินป่ามาเกือบทั้งวัน เราก็เดินกลับที่พัก ท่ามกลางอุณหภูมิเพียงแค่ 5-6 องศา เท่านั้น บอกเลย โคตรหนาว อะ
19.00
. กลับที่พัก พักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน 🤣🤣

——————————————————-

Day03 – Alishan > Taipei > Xiangshan Elephant Moutain > Ximending Night Market 

04.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เราตื่นนอนด้วยความหนาว ฮ่าๆ หนาวมาก ขนาดมีฮีทเตอร์แล้วนะ ถามว่าเช้านี้อาบน้ำมั้ย ตอบเลยว่าไม่ 🤣 รีบแต่งตัว เตรียมอุปกรณ์ แล้วเดินไปสถานีรถไฟกัน
05.10
. ซื้อตั๋วรถไฟ Alishan st. > Chushan st.
300 NT (
ไปกลับ)
05.40
. ออกเดินทางไปยัง Chushan st.
06.10
. ถึง Chushan st. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาที)

เมื่อเราถึงสถานี Chushan st. แล้ว เดินขึ้นบันไดไปอีก จุดเเรกที่เราจะเจอคือ Chushan Viewing Lot จุดนี้คนจะเยอะมากๆ ผมเลยเดินไปยังอีกจุด ซึ่งระยะประมาณ 500 เมตรก็จะถึง จุดนี้คือ Ogasawata Mountain Viewing Lot  ซึ่งจุดนี้ถือเป็นอีกจุดพีคของ Alishan เลยก็ว่าได้ ช่วงที่ผมไปจุดนี้หนาวมาก อุณหภูมิแค่ 1 องศา เท่านั้น หนาวมากจริงๆ 

อดเสียดายไม่ได้วันที่ผมไป ฟ้าปิดซะงั้น อดเจอพระอาทิตย์เลย เสียใจ อายเราก็ไม่บอก แต่ด้วยความเย็น และมีหมอกให้เราได้เห็นบ้าง ก็ทำให้ไม่ผิดหวังเลยซะทีเดียว 🤣 ก็ยังดี ที่มีหมอกบางๆ มาให้เราชม

นอกจากจเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกแล้วที่ Ogasawata Mountain Viewing Lot ยังมีต้นเมเปิ้ลให้เราได้ถ่ายรูปชิคๆ อีกด้วย

มั่วแต่ถ่ายรูป พอมาดูนาฬิกาเท่านั้นแหละ รถไฟจะอกแล้ว ทัน ไม่ ทัน สรุปทัน วิ่งกันสุดฤทธิ์ เหงื่อออกท่ามกลางความหนาวกันเลยทีเดียว

07.40 น. นั่งรถไฟจาก Chushan st. > Alishan st.

หมายเหตุ : ตารางรถไฟขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น เวลาจะปรับเปลี่ยนตามเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ของแต่ละช่วง เราสามารถเช็คตารางรถไฟก่อนได้นะครับ อย่าลืม สามารถเช็คได้ที่ Alishan st. ได้เลยครับ จะมีป้ายประกาศไว้

วิวข้างทาง ระหว่างกลับ Alishan st. มันดีมากจริงๆ บอกเลย

08.30 น. เดินทางถึง Alishan st. แวะไปกินอาหารเช้าสักหน่อยก่อนกลับที่พัก เตรียมตัวเดินทางกลับเข้าเทืองไทเป

09.00 น. Check out ออกจากที่พัก
09.50 น. เดินทางจาก Alishan > Chiayi
***การเดินทางไป THSR Chiayi จะมีบริการทั้งรถบัส และ mini bus เราสามารถเลือกขึ้นได้เลย ผมเลือกนั่ง mini bus เพราะเร็วกว่า ใช้เวลาแค่ 2 ชม. ราคาคน 300 NT เท่านั้น

*** ตารางเวลาการเดินทางจาก Alishan > Chiayi  ครับผม ***

update : 27/6/17

Scan

ตารางการเดินทางนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ สามารถเช็คตารางรถก่อนออกเดินทาง ได้ที่ท่ารถอีกทีนะครัย  

12.00 น. เดินทางถึง THSR Chiayi st.

อยู่สถานี THSR Chiayi st. อย่าลืมแวะไปกินชูชินะครับ อร่อยมาก แถมราคาก็ถูก ชุดนี้ราคาแค่ 90 NT เอง คุ้มมาก บอกเลย🍱🍱 ***อย่าลืมแวะไปชิมนะครับ อยู่บริเวณชั้น 1 ใกล้ๆ กับจุดขายตั๋วรถไฟครับ ซื้อมานั่งกินเพลินๆ หรือจะนั่งกินที่ร้านก็ได้ ระหว่างรอรถไฟมา

14.00 น. นั่งรถไฟจาก THSR Chiayi st. > THSR Taipei main st. (ซึ่งเราไม่ต้องซื้อตั๋วนะครับ เราซื้อมาแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าบันทึกข้อมูลลงสมุดให้เราเรียบร้อย ตอนผ่านประตูเราแค่ยื่นสมุดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแค่นั้นครับ

15.39 น. เดินทางถึง Taipei main st. ถึงไทเปปุ๊บ เราก็เข้าไป check in ที่พัก เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย

สำหรับคืนสุดท้ายของทริปไต้หวันนี้ เราพักที่ Miniinn ซึ่งเปน hostel ใจกลางเมืองไทเป ราคาอยู่ที่ห้องละ 1156 NT หรือประมาณ 1222 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาห้อง 2 คน เตียง 2 ชั้น และห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวมครับ ซึ่งอยู่ห่างจาก Taipei main st. แค่ 200 เมตร เท่านั้นเอง

เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว เราก็เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT เพื่อไปปีนเขา Xiangshan mountain elephant เพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน

การเดินทาง เรานั่ง MRT สายสีแดง มาลงที่ Xiangshan st. สุดสายสีแดง ออกประตู 2 จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ หรือจะเปิด google maps ก็ได้นะครับ

Processed with VSCO with a6 preset
บัตร easy card

หมายเหตุ!!! การนั่ง MRT ที่นี่ง่ายมากๆ ในการจ่ายเงิน เพียงแค่เราซื้อบัตร easy card จาก 7-11 ราคาบัตรแค่ 100 NT แล้วเราเติมเงินลงบัตรอีกเท่าไหร่ก็ได้ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว
เวลาเราจะไปเที่ยว หรือเดินทางไปไหน ไม่ว่าจะ MRT รถ bus หรือเข้า 7-11 ก็สามารถใช้บัตรนี้ได้ครับ แถมยังได้ส่วนลดอีก 200% ด้วย คุ้มสุดๆ

ทีแรกตั้งใจว่าจะมาดูพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางตึก Taipei 101 แต่มาไม่ทัน เสียดายมากๆ แต่มาถ่ายบรรยากาศแสงยามค่ำคืน ของที่นี่ก็ได้ บอกเลย สวยมาก มากจริงๆ

ถ่ายแสงเมืองไทเป กันสุดฟินแล้ว ได้เวลาไปตะลอนกิน ตะลอนชิม กันที่ย่าน Street food ชื่อดังของไทเป นั่นก็คือ Ximending Night Market 

การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีฟ้ามาลงที่สถานี Ximen

หืม บอกเลย ยิ่งเดิน ยิ่งเสียตังค์ มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยอะ ฟินๆ ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ชิลมาก อิ่มมาก และก็ปวดขามาก ฮ่าๆ 🤣🤣

กินกันจนอิ่ม ช้อปกันจนเพลิน เดินกันจนเมื่อย โคตรฟิน จริงๆ นะ

กินจนอิ่ม เดินจนร่างแหลก ได้เวลากลับที่พัก เพื่อพักผ่อนกันสักที เป็นอีกวันที่หนักหน่วงมากๆ ขอนอนยาวๆ สักหน่อยคืนนี้อะ ☺️☺️

——————————————————-

Day04 – Taipei > Longshan Temple > Bopiliao Historical > Chiang Kai-Sheck Memorial Hall > Thailand 

08.00 น. ตื่นนอน (ตื่นซะสายเชียว ฮ่าๆ)
09.00 น. Check out ออกจากที่พัก
09.30 น. ตะลอนเที่ยว
จุดเช็คอินแรกของวันนี้ที่เราจะมาคือ วัดหลงซาน นั่นเอง ซึ่งวัดนี้เป็นวัดศักดิ์สิทธิ และเป็นที่นับถือของชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก

การเดินทาง นั่งรถไฟ MRT สายสีน้ำเงิน มาลงที่ Longshan st. ฝั่ง Dingpu ทางออก 1

มาวัดหลงซาน ถ้าลืมแวะไปกินชาไข่มุกที่ร้าน 85 degree  ถือว่าพลาดมากๆ

ดูดิ เด็ดจริงๆ ชาไข่มุกที่ไต้หวัน ผมชอบมากที่สดก็คือไข่มุกของที่นี่ บอกเลย ยิ่งกิน ยิ่งฟิน ไข่มุกอร่อยมากๆ

จากวัดหลงซาน เดินมาอีกนิด พิกัด ถนนโบราณ Bopiliao (ปัวผีเหลียว) จุดนี้ถือเป็นพิกัดถ่ายรูปสุดชิคใจกลางเมืองไทเปอีกด้วย

มุมถ่ายรูปที่ละจุด Art มากๆ เหมาะสำหรับคน ชิคๆ คลูๆ ฮิปๆ แบบเรา ฮ่าๆ

หมายเหตุ!!! โซนด้านในของที่นี่จะปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์นะครับ

เดินมาจาก ถนนโบราณ Bopiliao (ปัวผีเหลียว) ข้ามถนนมาเล็กน้อยก็จะเจอร้านอาหารเล็กๆ ริมทาง แต่บอกเลยว่า อร่อยมากๆ ทีแรกกะว่าจะไม่แวะ แต่ช่วงนั้นหิวพอดีเลยแวะสักหน่อย ร้านนี้มีชื่อว่าว่า ว่า อ่านภาษาจีนไม่ออก เอาเป็นว่าชื่อร้าน 1910 ก็แล้วกัน เด็ดมากจริงๆ บอกเลย

ไม่รู้ชื่อเมนู แต่บอกเลยว่าอร่อยๆ น้ำชุปคล้ายๆ กับลาดหน้าบ้านเราเลย

อันนี้ก็อร่อย แถมราคาก็ถูกด้วย 2 ถ้วยนี้ ราคาแค่ 90 NT เอง ถูกมากๆ และอร่อยด้วย ใครที่ผ่านไปทางนั้น อย่าลืมแวะน้าาา

มุมอาร์ตๆ ระหว่างทางเดินที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

จุดเช็คอินสุดท้ายของทริปนี้ เรานั่ง MRT มาที่ อนุสรณ์เจียงไคเซค (Chiang Kai-Sheck Memorial Hall)

การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้า MRT จาก Longshan > Ximen แล้วเปลี่ยนสายเป็นสายสีเขียว  Ximen > Chiang Kai-Sheck ทางออก 5

โดยที่ อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก(Chiang Kai-Shek Memorial Hall) เป็นหนึ่งสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ทุกคนต้องมาของเมืองไทเป สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1976 เพื่อเป็นการรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก โดยสร้างเป็นอาคารสีขาวทั้ง 4 ด้านมีหลังคาทรง 8 เหลี่ยมสีน้ำเงินแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางของ จตุรัสเสรีภาพ(Freedom Square) มีบันไดด้านหน้า 89 ขั้นเท่ากับอายุของท่านประธานาธิบดีนั่นเอง โดยภายในจะมีรูปปั้นทำจากทองสัมฤทธิ์ของท่านในท่านั่งขนาดใหญ่ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากรูปปั้นของท่านในที่อื่นๆ ซึ่งจะมีทหารยืนเฝ้าไว้ 2 นายตลอดเวลา และที่กำแพงด้านในหลังจะมีข้อความปรัชญาทางการเมืองการปกครองของท่านอยู่ 3 คำ คือ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์ อีกด้วย (ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.talontiew.com)

น่ารักขนาดนี้จะไม่ถ่ายรูปด้วยได้ยังไง เด็กอะไรน่ารักขนาดนั้น

ช่วงที่เราไป เวลาประมาณ 13.00 น. เป็นช่วงที่มีพิธีเปลี่ยนเวรทหารพอดี  ซึ่งจะมีทุกๆต้นชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10:00-16:00 ของทุกวัน บอกเลยโคตรทึ่ง สุดยอดมากจริงๆ

อนุสรณ์เจียงไคเซค ถือเป็นจุดที่บ่งบอก และแสดงถึงสัญญาลักษณ์ของไทเป เป็นสถานที่ ที่ระลึกถึงประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง ว่ากว่าจะเป็นประเทศนี้ได้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

ใครที่มาไต้หวัน อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่นี่นะครับ ด้วยความที่ยิ่งใหญ่ และมีความสวยงามมากๆ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดเด็ดขาด ที่สำคัญเปิดให้เข้าชมทุกวัน 09:00-18:00 ไม่เสียค่าเข้าด้วย

ถ่ายรูปจนเพลิน พอมองนาฬิกาอีกที อ้าวๆ จะทันไม่ทัน วิ่งดิครับ เพราะเราต้องรีบไปขึ้นรถไฟฟ้า ไปสนามบินตอน 14.00 น. วิ่งกันสุดฤทธิ์ครับ ทันไม่ทันไปลุ้นกัน

และในที่สุดเราก็วิ่งมาทัน หอบกันเลยทีเดียว เกือบไปแล้วไง

14.00 น. นั่งรถไฟฟ้า MRT จาก Taipei main st. > Airport Taipei (ราคาตั๋วเที่ยวละ 150 NT)
15.00
. เดินทางถึงสนามบิน
15.10
. เช็คอินโหลดกระเป๋า

BYE BYE TAIWAN ถ้ามีโอกาสอีกเราจะเก็บมาหาอีกนะ

15.45 . เดินทางจากสนามบินนานาชาติเถาหยวน ไปสนามบินดอนเมือง
18.45
. เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง 

ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่อ่านมาถึงรูปสุดท้ายนี้ ขอบคุณมากจริงๆ รีวิวการเดินทางในครั้งนี้ผมตั้งใจเขียนเป็นอย่างมาก หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจมาเที่ยวไต้หวันนะครับ
บอกเลยดีมากจริงๆ ต้องมาให้ได้ มาแล้วจะติดใจเหมือนกับผมแน่นอน 😍😍😍 สุดท้ายนี้ฝากกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับผม💚💚

จบทริปไต้หว้น 4 คืน 3 วัน

SUN MOON LAKE – ALISHAN – TAIPEI

#รีวิวไต้หวัน #Taiwan #Tigerairtaiwan #TravelwithKKday #วิศวะพาเที่ยวไต้หวัน #วิศวะพาเที่ยว

——————————————————————————————————————-

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตารางเวลาการเดินทางจาก Alishan > Chiayi  ครับผม

Scan

ตารางรถไฟฟ้า MRT “

——————————————————————————————————————-

ช่องทางการติดตาม ติดต่อ และอัปเดตข่าวสารกันได้ที่

Fanpage : https://web.facebook.com/Widsawaphatiew

Instagram : https://www.instagram.com/widsawaphatiew/

Twitter : https://twitter.com/widsawaphatiew

Website : https://widsawa.com/

8 thoughts on “(รีวิวไต้หวัน) | Sun moon lak – Alishan – Taipei (4 วัน 3 คืน) งบ 8000 นิดๆ ก็ไปเที่ยวไต้หวันได้


  1. ขอสอบถามว่าทำไมถึงต้องนั่งรถจากสนามบินเข้าไป taipei ก่อนเพื่อไปนั่ง thsr ไป taichung เหรอคะ หรือว่าพาสแลกได้เฉพาะที่นั่น
    ขอบคุณค่ะ


  2. ขอข้อมูลหน่อยครับ
    ตอนผ่าน ตม. ตี 2 …..ร้านขายซิม เปิดไหมครับ


    1. ร้านขายซิม เปิดครับ ร้านคล้ายๆ กับที่ผมลงรูปไว้เลยครับ
      รถมีบริการ 24 ชม. ครับผม


  3. สวัสดีค่า ขอถามเรื่องรถจากsun moon lakeไป alishanค่ะ
    พอดีเรากะไม่ค้างalishan จะกลับไทเปเลย
    พอจะมีจุดไหนฝากกระเป๋าได้มั้ยคะ


  4. สอบถามค่ะ ตั๋วเดินทาง 3 วันต่อเนื่องกัน (ต่อเนื่องกันในที่นี้หมายถึงอะไรเหรอคะ)

Leave a Reply to amCancel reply