ใครว่าหน้าฝนแล้วต้องอดเที่ยว เพราะจริงๆ แล้วก็มีบางสถานที่ที่จะสวยสุดๆ หากเป็นช่วงฤดูนี้ เพราะจะมีความชุ่มฉ่ำสดชื่นและความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้าที่ให้สีสันสดใสไม่เหมือนฤดูแล้ง นอกจากป่าไม้ภาคเหนือแล้วนั้น แทบอีสานบ้านเฮาอย่างอุบลราชธานี ก็สมบูรณ์ไม่แพ้กันเลย ยิ่งหน้าฝนโปรยปรายอย่างนี้อยากชวนไปเช็คอินกับ 7 ที่เที่ยวอุบลฯ ยลมนต์เสน่ห์ธรรมชาติกันครับ
สำหรับเรื่องที่พักในอุบลฯ ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะมีให้เลือกเยอะมากทั้งโรงแรมหรู รีสอร์ท โฮมสเตย์ ใครยังนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ต่อคืน ลองเข้าไปดูที่ Traveloka ได้ครับ เขารวมที่พักในอุบลฯ ไว้ให้เลือกมากมาย มีรูปและรีวิวจากแขกที่เคยเข้าพักจริงๆ ให้ดูด้วย ราคาก็ไม่แพง ยิ่งถ้าได้ส่วนลดยิ่งประหยัดเลย
เช็คราคาที่พักอุบลราชธานี คลิกที่ Traveloka
1. อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
ไฮไลท์ความงามของภูจองนายอยคือ น้ำตกห้วยหลวงที่ไหลตกจากหน้าผากระจายตัวลงสู่แอ่งด้านล่าง น้ำใสไหลเย็นเห็นแล้วน่าลงไปนอนแช่ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีหาดทรายเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยแมกไม้ใหญ่น้อย ให้บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน และช่วงเวลาที่น้ำตกในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยแห่งนี้จะสวยงามที่สุดก็คือช่วงหน้าฝนที่มีปริมาณน้ำเยอะ และต้นไม้เขียวชอุ่มผลิดอกออกใบแบบนี้นี่แหละ
2.สามพันโบก
มาอุบลฯ ทั้งทีจะพลาดสามพันโบกหรือแกรนด์แคนยอนเมืองไทยไปได้ยังไง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติโดยแท้ โดยสามพันโบกคือแนวหินทรายเทือกเขาภูพานที่ทอดตัวยาวไปกับริมน้ำโขงเกิดเป็นสันดอนขนาดใหญ่กว่า 10 ตารางกิโลเมตร ร่องรอยการกัดเซาะจนเกิดเป็นลวดลายและสีสันถือเป็นมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง แน่นอนว่าไฮไลท์ของที่นี่ก็คือร่องหินที่ถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นหลุมลักษณะคล้ายมิกกี้เม้าส์แบบเหลือเชื่อนั่นเอง
3.ผาชะนะได
ผาชะนะไดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หลายคนอาจจะคุ้นชื่อนี้เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นการคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในแต่ละวันของกรมอุตุฯ เนื่องจากผาชะนะไดอยู่ด้านตะวันออกสุดของประเทศไทยและเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่แรกด้วย นอกจากวิวพระอาทิตย์แล้วยังสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและเขตแดนไทยกับลาวได้อีกด้วย
4.โขงเจียม
โขงเจียมคืออำเภอหนึ่งในอุบลฯ โดยมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงและอยู่ตะวันออกสุดของประเทศไทย ตรงจุดที่เป็นพื้นที่โขงเจียมนี้เป็นจุดที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกันพอดี คือแม่น้ำมูลกับแม่น้ำโขง เกิดเป็นลักษณะพิเศษที่เรียกว่าแม่น้ำสองสี คือ “โขงสีปูน มูลสีคราม” นอกจากแม่น้ำสองสีแล้ว ทัศนียภาพและบรรยากาศริมฝั่งโขงก็ยังน่าดูน่าชมไม่แพ้กัน
5.วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย
วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัยคือสำนักปฏิบัติธรรมโดยมีพระสงฆ์จำพรรษา ภายในบริเวณมีพระนอนและมีน้ำตกไหลจากหน้าผาด้านบนลงมาทำให้เกิดตะไคร้น้ำตามผนังและโขดหิน กลายเป็นการประดับตกแต่งที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ นอกจากจะได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ แล้วยังได้ความสงบเย็นใจ เหมาะทั้งการไปกราบสักการะและไปพักผ่อนจิตใจด้วย
6.ขัวน้อย บ้านชีทวน
ขัวน้อย ตั้งอยู่ที่บ้านชีทวน จุดเด่นของที่นี่คือสะพานที่ทอดยาวไปบนท้องนาเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้วอากาศยังบริสุทธิ์อีกด้วย ที่สะพานขัวน้อยแห่งนี้จะมาชมช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินก็ได้บรรยากาศดี หรือจะมาใส่บาตรยามเช้าก็ได้อิ่มบุญอิ่มใจกันถ้วนหน้า เพราะสะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางใช้สัญจรไปมาทั้งชาวบ้านและพระสงฆ์มาช้านาน
7.สวนสัตว์อุบลราชธานี
สวนสัตว์อุบลราชธานีอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงฟ้าห่วน เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ โดยสามารถจำแนกสัตว์เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ สัตว์กีบไทย ได้แก่ กวางป่า เนื้อทราย เก้ง ละมั่ง สัตว์กีบต่างประเทศ ได้แก่ กวางซีกา กวางบาราซิงกา และแบล็คบัค สัตว์จากแอฟริกา ได้แก่ ยีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ วอเตอร์บัค ไนอาล่า และกลุ่มสัตว์นักล่านานาชนิด นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์ขนาดเล็กให้ได้ชมอีกหลากหลายสายพันธุ์
ก่อนจะหมดฤดู Green Season นี้ รีบจัดทริปที่อุบลราชธานี แล้วเที่ยวให้ครบทุกที่ไปเลย…..
น่าไปมากๆ เลยค่ะ อุบลที่เที่ยวใหม่ๆ มีแบอะมาก ไม่ว่าจะเป็นในโซนโขงเจียม หรือที่เที่ยวใหม่อย่างวัดภูพร้าว ที่อยู่ทางอำเภอเขื่อนสิรินธรค่ะ